กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 478 แม่ทำดีที่สุดแล้ว

บทที่ 478 แม่ทำดีที่สุดแล้ว

บทที่ 478 แม่ทำดีที่สุดแล้ว

บทที่ 478 แม่ทำดีที่สุดแล้ว

บรรยากาศภายในห้องคลอดกลายเป็นเศร้าอย่างยิ่งตามคำพูดของเซี่ยชิงหยวน

เมื่อเผชิญกับความเป็นและความตาย ทุกคนจะถอยหนีแต่คนเดียวที่สามารถเสียสละชีวิตเพื่อลูกได้ก็คือแม่ของเด็กเท่านั้น

หมอฮวงกับหมอฟ่านมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “มาพยายามด้วยกันเถอะค่ะ!”

บทสนทนาทั้งหมดใช้เวลาเพียงครึ่งนาที และในครึ่งนาทีนี้ ชีวิตหรือความตายของเด็กในครรภ์ก็ได้รับการตัดสิน

ในทางการแพทย์ เด็กที่ยังไม่ออกจากครรภ์ถ้าให้พูดตามหลักการแล้วจะถูกเรียกว่าเป็นตัวอ่อนเท่านั้น ยังไม่ถูกเรียกว่าเป็นบุคคลได้

ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับเหตุฉุกเฉินและต้องตัดสินใจ ตัวเลือกแรกของหมอที่มักจะเลือกคือการช่วยชีวิต ‘มนุษย์’ ก่อนจะเป็นทารกในครรภ์

เซี่ยชิงหยวนเข้าใจความรับผิดชอบของหมอ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกขุ่นเคืองต่อพวกเขาที่ตัดสินใจแบบนั้น และเธอคิดว่าน่าจะเป็นเสิ่นอี้โจวที่อยู่นอกห้องคลอดให้การตัดสินใจแบบนี้มาด้วย

แต่ในฐานะแม่ของลูก เธอได้กลายเป็นแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์แล้ว

เซี่ยชิงหยวนไม่สามารถทำลายโอกาสรอดชีวิตของลูกเธอได้จริง ๆ

หมอทั้งสองร่วมมือกัน คนหนึ่งใช้เทคนิคพิเศษในการดันท้องของเซี่ยชิงหยวนอีกคนสวมถุงมือและล้วงมือเข้าไปในช่องคลอดเพื่อสัมผัสตัวเด็ก จากนั้นพวกเธอก็ทำงานร่วมกันในทิศทางที่ท้องถูกผลัก แล้วขยับศีรษะของเด็กอย่างช้า ๆ ให้หันกลับมา

ความเจ็บปวดสองด้านทำให้เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะเกร็งร่างกาย โดยยืดจากแขนขาไปจนถึงนิ้วเท้า

แต่วินาทีต่อมาเธอตระหนักว่านี่จะทำให้เด็กยิ่งถูกบีบรัด จึงรีบผ่อนคลายเรี่ยวแรงและกัดริมฝีปากแน่น

ริมฝีปากถูกกัดอย่างแรงจนมีเลือดไหลออกมา แต่เซี่ยชิงหยวนไม่รู้สึกเจ็บที่ริมฝีปากเลย

เธอตัวสั่นด้วยความเจ็บปวดและมีเหงื่อเย็นปกคลุม

เธอมองดูแสงสีขาวเย็น ๆ เหนือศีรษะ และรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายลดลงทีละน้อย และจากนั้นก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ

พยาบาลที่ยืนเคียงข้างหยิบผ้าก๊อซชิ้นหนึ่งใส่เข้าปากเธอ น้ำเสียงติดขัดโดยไม่รู้ตัว “คุณแม่ กัดนี่แทนนะคะ”

แต่เซี่ยชิงหยวนพบว่าไม่มีแรงแม้แต่จะอ้าปาก

พยาบาลจับมือเธอไว้แน่นและถูแขนของเธอ “คุณแม่คะ เดี๋ยวก่อน! อย่าหลับนะ! ลูกของคุณกำลังจะออกมาแล้วค่ะ!”

ขณะที่พยาบาลตะโกน เซี่ยชิงหยวนก็ฟื้นสติของเธอช่วงสั้น ๆ

เธอจะหลับไม่ได้ก่อนที่ทารกจะออกมา ถ้าหลับไป เธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

เธอบังคับตัวเองให้ตื่น เปิดปากและกัดผ้าก๊อซไว้

ขณะที่หมอทั้งสองบีบและบอกให้เธอออกแรงครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็รู้สึกราวกับว่าไม่สามารถเชื่อฟังคำสั่งของพวกเธอได้อีกต่อไป

เธอไม่มีแรงเหลือแล้ว

การมองเห็นของเธอก็เริ่มเบลอแล้วก็มืดลง

ลูกแม่…แม่ขอโทษ…แม่พยายามเต็มที่แล้ว…

แต่ไม่ต้องกลัวนะ…แม่จะอยู่กับลูกตลอดไปเช่นกัน…

ลูกสาวของแม่…แม่ขอโทษ…แม่ไม่สามารถอยู่ดูหนูโตในอนาคตได้…

เมื่อดวงตาของเซี่ยชิงหยวนหลับลง ห้องคลอดทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

พยาบาลที่ดูแลเซี่ยชิงหยวนตะโกนว่า “เธอหมดสติไปแล้วค่ะ!”

ข่าวนี้เหมือนกับสายฟ้าจากฟ้าที่ฟาดใส่ใจทุกคน หมอฟ่านตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ช่วยเธอเร็ว ๆ เลย!”

หมอฮวงก็ตอบสนองทันทีเช่นกันโดยบอกพยาบาลอีกคนหนึ่ง “ไปเรียกแผนกศัลยกรรมให้ผู้อำนวยการเล่ยรีบมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”

พยาบาลได้รับคำสั่ง จึงเปิดประตูห้องคลอดแล้วรีบออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

ผู้อำนวยการเล่ยมาถึงอย่างรวดเร็ว และพยาบาลที่เฝ้าประตูก็อธิบายสถานการณ์ “คนแม่แพ้ยาสลบ มีลูกแฝด ลูกคนแรกคลอดแล้ว ลูกคนที่สองงอก้น หมอฟ่านพยายามแก้ไขตำแหน่งของทารกในครรภ์ แต่คนแม่ทนไม่ไหวและหมดสติอยู่ในอาการโคม่าค่ะ”

เธออธิบายสั้น ๆ แต่มันทำให้สีหน้าของผู้อำนวยการเล่ยมืดลงทันที “พาผมเข้าไปดูเร็ว ๆ!”

เสิ่นอี้โจวและคนอื่น ๆ ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกต่างตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

เซี่ยชิงหยวนใช่คนที่พยาบาลเพิ่งอธิบายจริง ๆ เหรอ?

เสิ่นอี้โจวและหวังผิงต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่พยาบาลที่อุ้มเด็กเดินออกมาและยื่นเด็กคนนั้นให้เสิ่นอี้โจว “คุณเสิ่นคะ นี่คือลูกสาวของคุณ แต่แม่และทารกอีกคนกำลังต้องการการช่วยเหลือฉุกเฉิน สมาชิกครอบครัวโปรดรอข้างนอกนะคะ”

หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็ปิดประตูห้องคลอดด้วยเสียงหนักอึ้ง

เสิ่นอี้โจวรู้สึกถึงชีวิตน้อย ๆ ที่อบอุ่นในอ้อมแขนของเขา มองลงไปและเห็นว่าเด็กในอ้อมแขนมีผิวสีดอกกุหลาบ ยกเว้นดวงตาและปากเล็กๆ ของเธอ ใบหน้าของเด็กทั้งหมดคล้ายกับเขา

ทารกน้อยมองไปทุกทิศทางและเม้มปากเล็ก ๆ ของเธอราวกับว่ากำลังมองหานม

ทุกคนรวมตัวกันและมองดูทารกในอ้อมแขนของเสิ่นอี้โจว

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเสิ่นอี้โจวและเขาก็ซุกหน้าลงในผ้าห่อตัวของทารก “ลูกสาวของฉัน…”

คนที่เขารักมากที่สุดได้มอบชีวิตของเธอให้กับลูกสาวที่ตัวเองให้กำเนิด

เซี่ยชิงหยวนยังคงนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด แต่ทุกคนที่อยู่หน้าห้องนั้นจมอยู่กับความเศร้าโดยไม่มีความสุขเลย

เป็นไปได้ว่าทารกรู้สึกได้ถึงความเศร้าของพวกผู้ใหญ่ เธออ้าปากค้างและร้องไห้เสียงดัง

เสียงร้องไห้ของเด็กเป็นเหมือนตัวเร้าอารมณ์ของทุกคนยิ่งขึ้น ในขณะนี้เสิ่นอี้โจวอยากจะรีบเข้าไปในห้องผ่าตัดและทนทุกข์ทรมานแทนเซี่ยชิงหยวนเหลือเกิน

หวังผิงวิ่งมาจนสุดทางและไม่ได้พักผ่อนเลย เธอเกือบเป็นลมกับเหตุการณ์นี้

เธอร้องไห้ไปที่ประตูห้องคลอดที่ปิดอยู่ “แม่ผิดไปแล้ว แม่ขอโทษ! ตราบใดที่ลูกไม่เป็นอะไร แม่จะขอโทษลูกและแม่จะไม่ทำแบบนั้นกับลูกอีก! ชิงหยวน แม่ผิดไปแล้ว!”

เสียงร้องของเด็กและเสียงตะโกนของหวังผิงดังเข้าไปในห้องคลอดเป็นระยะ ๆ พยาบาลอยากจะออกไปเพื่อหยุด แต่หมอฮวงส่ายหัวและส่งสัญญาณไม่ให้ทำ

ในขณะที่ร่วมมือกับผู้อำนวยการเล่ยเพื่อดำเนินการช่วยเหลือ เธอพูดกับเซี่ยชิงหยวนว่า “คุณได้ยินเสียงข้างนอกไหม? แม่ของคุณห่วงใยคุณ ลูกของคุณต้องการคุณ คุณอยากให้แม่ผมขาวต้องเป็นส่งลูกสาวผมดำในงานศพเหรอ? หรือคุณอยากให้ลูกสาวที่เกิดมาไม่มีแม่เหรอ? ลูกในท้องยังไม่ยอมแพ้ คุณจะยอมแพ้ก่อนได้ยังไง?”

พอพูดก็อดสะอื้นไม่ได้

ขณะหมดสติ เซี่ยชิงหยวนดูเหมือนจะได้ยินเสียงร้องไห้ของหวังผิงและเสียงร้องไห้ของลูกสาวเธอ มันเหมือนกับจุดแสงที่ส่องสว่างในความมืดที่นำทางเธอไปข้างหน้า

ขณะเดียวกัน ก้อนเนื้อในท้องดูเหมือนจะใช้กำลังทั้งหมดเพื่อดันตัวเองไปข้างหน้าและพยายามออกไปยังทางออกของช่องคลอดเช่นกัน

เซี่ยชิงหยวนทำตามโดยไม่รู้ตัว

หมอฟ่านที่คอยดูแลอยู่ปลายเตียงอุทานลั่น “เธอเริ่มออกแรงอีกครั้งแล้ว!”

แต่ถึงอย่างนั้น ขณะที่เซี่ยชิงหยวนกำลังออกแรง ผ้าปูเตียงใต้ตัวของเธอก็ค่อย ๆ เปื้อนเลือดเป็นสีแดงฉานอย่างน่ากลัว

……………………………………………

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset