บทที่ 474 รีบเร่งไปโรงพยาบาล
บทที่ 474 รีบเร่งไปโรงพยาบาล
ตั้งแต่ภรรยาสาวตั้งครรภ์ ยามตกดึกเสิ่นอี้โจวนั้นนอนไม่หลับเลย เขามักจะตื่นขึ้นมาเกือบทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยจากฝั่งของเธอ
ทันทีที่เซี่ยชิงหยวนคว้าผมของตน ชายหนุ่มก็ตื่นขึ้นมาแล้วเอ่ย “ชิงหยวน?”
เซี่ยชิงหยวนหายใจเข้าแล้วพูดว่า “กระดูกก้นกบของฉันมันเจ็บมากเลยน่ะ”
ทันทีที่เธอพูดจบ เสิ่นอี้โจวก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว
เขาเปิดไฟแล้วโน้มเข้ามาดูเซี่ยชิงหยวนใกล้ ๆ
เขาเห็นเหงื่อบาง ๆ บนหน้าผากของเธอ แลดูอึดอัดมาก
เสิ่นอี้โจวรู้สึกตื่นตระหนกในใจ แต่ใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง
ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันน่าจะเป็นของจริงแล้วสินะ
มือใหญ่ของเขาแตะหน้าผากของภรรยา และเช็ดเหงื่อให้เธอ “ไม่เป็นไรนะ เราไปโรงพยาบาลกันเถอะ”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าอย่างยากลำบาก “อื้ม”
เธอชี้ไปที่ท้อง “ลูกของเราเคลื่อนไหวเยอะมากเลย”
ความปั่นป่วนในท้องของเธอทำให้หน้าอกพลันรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
เสิ่นอี้โจวสวมเสื้อผ้าของเขาแล้วเดินมาข้าง ๆ เซี่ยชิงหยวน สวมเสื้อคลุมบาง ๆ ให้เธอ จับเอวของเธอเพื่อที่จะพยุงยืนขึ้น “ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่นี่แล้ว”
เขาพูดพลางอุ้มเธอขึ้น เปิดประตูด้วยเท้าแล้วเดินออกไป
เขาไม่สนใจอีกต่อไปว่าจะรบกวนคนในบ้านหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ตะโกนขณะที่เดิน “แม่ครับ! ชิงหยวนกำลังจะคลอดแล้ว! ช่วยเอาของที่เตรียมไว้ออกมาด้วยครับ!”
ตะกร้าของใช้สำหรับแม่ลูกอ่อนถูกเตรียมไว้แล้ว และวางไว้ชั้นล่าง
เพียงรอให้เซี่ยชิงหยวนมีอาการเจ็บท้องเท่านั้น
เมื่อเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงของเสิ่นอี้โจวดังขึ้น ผู้คนที่เหลือในบ้านก็ตื่นทันที ยิ่งเมื่อเสิ่นอี้โจวตะโกน คนอื่น ๆ ก็แทบจะกระโดดออกจากเตียงและรีบวิ่งออกมานอกห้องโดยไม่มีเวลาใส่เสื้อผ้าด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นเสิ่นอี้โจวอุ้มเซี่ยชิงหยวนที่ดูอึดอัด พวกเขาก็ไม่ถามอะไร แต่รีบกลับไปที่ห้องทันทีเพื่อสวมเสื้อผ้าตัวเองแล้วเปิดประตูให้เสิ่นอี้โจว
แม้แต่เสิ่นอี้หลินก็คลานออกจากเตียง ใส่เสื้อผ้าและรองเท้าแล้วมุ่งหน้าออกไป
ช่วงนี้รถของเสิ่นอี้โจวจอดอยู่ที่บ้านตลอดเวลา ชายหนุ่มอุ้มเซี่ยชิงหยวนเข้าไปในรถแล้วพูดกับหลินตงซิ่ว “แม่ครับ ดูแลชิงหยวนจากเบาะหลังให้ผมด้วยนะ”
หลินตงซิ่วรับคำทันที “ได้เลย!”
ขณะที่พูด เธอก็ปีนขึ้นไปบนเบาะหลังด้วยมือและเท้าของตัวเอง พลางพยุงเซี่ยชิงหยวนช่วยประคองให้ลูกสะใภ้ได้กึ่งนอนและปลอบโยน “เด็กดี อย่ากลัวไปเลยนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินตงซิ่ว เซี่ยชิงหยวนก็รู้สึกอธิบายไม่ถูก เธออยากจะร้องไห้ออกมา
มันเป็นความเจ็บปวดที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ทำให้เธอไม่สามารถคิดคำตอบได้
เสิ่นอี้โจวนั่งบนที่นั่งคนขับและปี่เหลาซานก็ขึ้นไปบนที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับ ก่อนจะพูดกับปี่ฟู่หมานและเสิ่นอี้หลินที่ต้องการขึ้นรถมาด้วย “ฟู่หมาน นายพาอี้หลินตามไปทีหลังนะ”
ตอนนี้เลยเวลาตีสามมาแล้ว และใกล้เวลารุ่งสาง
ปี่ฟู่หมานตอบทันที “ครับ ไม่ต้องห่วงครับอาจารย์!”
หลังจากอธิบายแล้วเสิ่นอี้โจวก็เหยียบคันเร่งขับออกไป
เมื่อเขาไปถึงประตูใหญ่ ยามก็มองเข้าไปในหน้าต่างรถและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทันที เขารีบพยักหน้าให้เสิ่นอี้โจวและเปิดประตูโดยไม่ถามอะไรทั้งนั้น
เสิ่นอี้โจวนั่งอยู่ที่นั่งคนขับฟังเสียงครวญครางของเซี่ยชิงหยวนที่เบาะหลัง นิ้วของเขาที่จับพวงมาลัยเปลี่ยนเป็นขาวซีดทั้งหมด หัวใจเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกังวล
ส่วนหลินตงซิ่วและปี่เหลาซานยังคงสนับสนุนเซี่ยชิงหยวนเพื่อหันเหความสนใจของเธอ
หลังจากไปถึงโรงพยาบาลในที่สุด เสิ่นอี้โจวก็อุ้มเซี่ยชิงหยวนลงรถอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
เขาได้โทรหาโรงพยาบาลล่วงหน้าแล้ว คนในโรงพยาบาลก็ผลักรถเข็นออกมาทันที จากนั้นคนหลายคนก็ทำงานประสานกัน คนกลุ่มหนึ่งไปส่งเซี่ยชิงหยวนที่แผนกสูติ ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งไปทำเอกสาร และอีกกลุ่มไปเรียกหมอ โรงพยาบาลตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทันที
ปี่เหล่าซานถูกทิ้งให้อยู่ในห้องโถงเพื่อทำเรื่องเอกสาร ขณะที่เสิ่นอี้โจวและหลินตงซิ่วพาเซี่ยชิงหยวนไปที่แผนกสูติศาสตร์
เมื่อไปถึงห้องตรวจ พยาบาลก็หยุดเสิ่นอี้โจวไว้ “ขอโทษนะคะ เราต้องตรวจคุณแม่ก่อนค่ะ คุณพ่อรอด้านนอกนะคะ”
เสิ่นอี้โจวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุด และหลินตงซิ่วก็เดินตามเข้าไป
พยาบาลทำการตรวจภายในของเซี่ยชิงหยวนและพูดทันทีว่า “ช่องคลอดเปิดสามนิ้วแล้ว ถ้าคุณมาช้ากว่านี้อาจไม่โชคดีเท่าไหร่นะคะ”
หลินตงซิ่วตกใจมากจนพูดไม่ออก โดยเฉพาะหลังจากพยาบาลเสร็จสิ้นการตรวจภายในของเซี่ยชิงหยวน หลินตงซิ่วจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยลูกสะใภ้สวมกางเกงและถูเลือดบนมือของเธอ
เธอเกือบจะเป็นลมเมื่อมองดูเลือดบนฝ่ามือ
พยาบาลพูดว่า “สมาชิกในครอบครัวมากับฉันก่อนนะคะ เพื่อส่งคุณแม่ไปที่ห้องทำคลอดต่อค่ะ”
เสิ่นอี้โจวซึ่งกำลังรออยู่นอกประตูไม่มีเวลาพูดกับเซี่ยชิงหยวนแม้เพียงสักสองสามคำ ก่อนที่เขาจะมองดูเซี่ยชิงหยวนถูกเข็นเข้าเข้าไปในห้องทำคลอด
เมื่อเขาเห็นฝ่ามือที่เปื้อนเลือดและใบหน้าซีดเซียวของหลินตงซิ่ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะคว้าไหล่ของแม่ตัวเองแล้วตะโกน “แม่! เกิดอะไรขึ้นกับชิงหยวน?”
ดวงตาของหลินตงซิ่วเปลี่ยนเป็นสีแดง “พยาบาลเพิ่งบอกว่าช่องคลอดของชิงหยวนเปิดสามนิ้วแล้ว ต้องถูกส่งไปที่ห้องรอคลอดทันทีน่ะ”
เธอมองดูฝ่ามือของตัวเอง และน้ำเสียงสั่นเครือ “ชิงหยวนจะเป็นอะไรไหม?”
เสิ่นอี้โจวสงบลงและปลอบโยน “เธอจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ผมถามมาแล้ว แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่นี่มีหมอที่เก่งมากอยู่สองคนเลย”
หมอสองคนนั้น คนหนึ่งคือหมอฮวงซึ่งตรวจสุขภาพก่อนคลอดของเซี่ยชิงหยวนอยู่ตลอด และอีกคนคือหมอฟ่าน ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์
แพทย์ทั้งสองรีบออกจากบ้านเช่นกัน หลังจากถามพยาบาลเกี่ยวกับสถานการณ์แล้ว พวกเขาก็พูดกับเสิ่นอี้โจวและหลินตงซิ่วว่า “การคลอดบุตรต้องใช้กำลังกายอย่างมาก รบกวนสมาชิกในครอบครัวออกไปซื้ออาหารให้เธอก่อนนะคะ”
มีคนมาโรงพยาบาลอยู่ตลอด ดังนั้นจึงมีร้านอาหารเช้าหลายร้านที่เปิดแต่เช้ามืดแถวหน้าโรงพยาบาล
หลินตงซิ่วพูดทันที “ลูกอยู่ที่นี่กับชิงหยวนนะ แม่จะออกไปซื้อเอง!”
หมอฟ่านพยักหน้าให้หมอฮวง และเข้าไปในห้องรอคลอดเพื่อเตรียมตัว
หมอฮวงพูดกับเสิ่นอี้โจวว่า “คุณเสิ่นคะ ฉันบอกไว้ก่อนหน้าแล้วว่าคุณนายเสิ่นแพ้ส่วนผสมของยาชาอาจไม่สามารถผ่าคลอดได้ ดังนั้นเราจะพยายามคลอดบุตรโดยการเบ่งคลอดก่อนอย่างที่เราเคยคุยกันไว้ก่อนหน้านี้นะคะ แต่ถ้าหากไม่ได้ผล เราค่อยลองพิจารณาวิธีการอื่น ๆ ต่อไปค่ะ”
……………………………………………