บทที่ 444 การศึกษาก่อนคลอด
บทที่ 444 การศึกษาก่อนคลอด
เซี่ยชิงหยวนสังเกตเห็นความสนุกสนานในนัยน์ตาของเสิ่นอี้โจวและรู้สึกกังวลน้อยลง
เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ก็ได้ คุณจะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการเลย ยังไงซะฉันก็หยุดคุณไม่ได้อยู่แล้วนี่”
ขณะที่พูด เธอก็จงใจมองไปที่ประตูห้อง “ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว”
เสิ่นอี้โจวยิ้มกริ่มออกมาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งไปที่ข้อพับเข่าของภรรยา อีกมือหนึ่งโอบหลังของเธอ แล้วกอดทั้งร่างของเธอไว้
เพียงครู่ต่อมา ก่อนที่เซี่ยชิงหยวนจะได้ส่งเสียงใด เธอก็ถูกวางลงบนเตียงสองชั้นที่ปูเสร็จแล้ว
เตียงของตู้นอนพิเศษนี้นุ่มกว่าเตียงของตู้นอนปกติมาก และเสิ่นอี้โจวก็เพิ่มเบาะรองหนา ๆ ให้ด้วย ทำให้นอนบนเตียงได้สบายยิ่งขึ้น
เซี่ยชิงหยวนลูบมันและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลวเลย”
เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ที่เสิ่นอี้โจวยัดเบาะรองแบบนี้ไว้ในกระเป๋าเดินทางเช่นเดียวกับสิ่งของอื่น ๆ ที่เธอมักจะใช้ หญิงสาวก็พลันรู้สึกขบขันเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งของมากมาย
เธอพูดติดตลกว่า “ถ้าคนอื่นไม่รู้ พวกเขาคงคิดว่าเลขาธิการเสิ่นกำลังย้ายบ้านแล้วนะเนี่ย”
เสิ่นอี้โจวยิ้มและจับจมูกของเธอ “ใครใช้ให้ภรรยาของผมน่าเอาอกเอาใจขนาดนี้ล่ะ”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและยื่นมือออกไปตีเขา “คุณกังวลเรื่องฉันเกินไปต่างหาก”
เสิ่นอี้โจวจับมือเธอ ดึงเข้ามาในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็จูบหน้าผากหญิงสาวด้วยความรัก “ตราบเท่าที่มันเป็นเรื่องของคุณ ผมจำเป็นต้องระวังทุกสิ่งอย่างนั่นแหละ”
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
เธอแนบตัวเข้าไปในอ้อมแขนของสามี “ไม่ต้องห่วง ฉันกับลูก ๆ สบายดีน่า”
“ยังไม่ต้องพูดถึงก่อนหน้านี้เลย แม้แต่ตอนนี้มีผู้หญิงคนไหนบ้างล่ะที่ได้รับการดูแลแบบฉันตอนท้อง? ฉันเคยได้ยินมาว่าบางคนถึงกับต้องคลอดในทุ่งนาเลยนะ”
“ฉันได้นั่งในตู้นอนพิเศษทั้งสองวันจนถึงที่หมาย ตั้งแต่ขึ้นรถไฟฉันก็เห็นผู้หญิงท้องตั้งหลายคนที่เดินทางเหมือนกัน ฉันสัญญาว่าเมื่อไปถึงเมืองกว่างโจว ฉันจะไปแค่กับเหล่าไต้เพื่อพบกับผู้คนที่ฉันจำเป็นต้องพบเท่านั้น และจะไม่ทำอะไรให้หักโหมตัวเองแน่นอน”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นอี้โจว เห็นว่าสันกรามของเขาและปากไม่แสดงท่าทีเครียดตึงอีกต่อไป จึงพูดต่อ “ฉันถามหมอฮวงแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ ตกลงไหม?”
สตรีมีครรภ์ทุกคนมีปฏิกิริยาต่อการตั้งครรภ์แตกต่างกัน เธอรู้สึกขอบคุณมากที่เด็กสองคนนี้ไม่ทำให้เธอลำบากมากนักนอกจากอาการแพ้ท้องอย่างมากขึ้นกว่าสามเดือนที่แล้วเล็กน้อย
เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ด้วยความเอาใจใส่ที่ได้รับจากพยาบาลโภชนาการและแบบฝึกหัดการตั้งครรภ์ที่สอนโดยหมอฮวง เธอก็รู้สึกมีแรงมากขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้นการตัดสินใจของเธอที่จะลงใต้ไปยังเมืองกว่างโจวจึงไม่ได้เกิดขึ้นโดยความคิดที่หุนหันพลันแล่น แต่มันผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ
เสิ่นอี้โจวกอดเธอแน่นขึ้นแล้วพูดว่า “ก็ได้”
…
เมื่อรถไฟเข้าใกล้เมืองกว่างโจวมากขึ้น อุณหภูมิก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เซี่ยชิงหยวนเปลี่ยนเสื้อสเวตเตอร์ถักของเธอเป็นใส่เสื้อโค้ตบาง ๆ แทน
ในช่วงเวลาขณะอยู่บนรถไฟ ตงวั่งชุนมาหาสองสามครั้ง ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นการมาถามคำถามเสิ่นอี้โจวหรือเป็นการขอคำแนะนำ
เมื่อพวกเขากำลังคุยกันเรื่องงาน บางครั้งเซี่ยชิงหยวนก็จะไปที่ทางเดินหรือไม่ก็นอนอยู่ข้างหน้าต่างเพื่อชมทิวทัศน์ และบางครั้งเธอก็จะนอนลงอ่านหนังสือด้วยหมอนสูงที่เสิ่นอี้โจววางไว้ให้
ทุกครั้งที่ตงวั่งชุนมาหาจะทักทายเธออย่างสุภาพมาก เซี่ยชิงหยวนไม่ได้พูดอะไรแต่ตอบด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันมากนัก
มีอยู่ครั้งหนึ่งตงวั่งชุนเห็นเซี่ยชิงหยวนอ่านหนังสือภาษาอังกฤษระดับมัธยมปลายจึงถามว่า “คุณนายเสิ่น คุณสนใจภาษาอังกฤษเหรอคะ?”
ภรรยาของเลขาธิการเสิ่นมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น และมันไม่ได้เป็นความลับต่อใคร
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ฉันชอบเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในขณะที่ไม่มีอะไรทำน่ะ”
ตงวั่งชุนยังไม่ยอมรับคำตอบนี้และถามอีกรอบ “คุณนายเสิ่นต้องการเรียนมหาวิทยาลัยเหรอคะ?”
“เสี่ยวตง” เสียงเย็นชาของเสิ่นอี้โจวดังขึ้นขัดจังหวะบทสนทนาของทั้งสอง
เขาชี้ไปที่ข้อมูลในเอกสาร “การคำนวณของข้อมูลนี้นะมีจุดผิดปกตินะ มันสูงกว่าค่าปกติไปเจ็ดเปอร์เซ็นต์ ช่วยตรวจสอบอีกครั้งด้วย”
หัวใจของตงวั่งชุนเต้นรัวกับความผิดพลาดนี้อย่างมาก เพราะงั้นเธอจะยังมีใจคิดถามเซี่ยชิงหยวนเกี่ยวกับหนังสือภาษาอังกฤษต่อได้ยังไง? เธอรับเอกสารไปอย่างรวดเร็วและจากไปทันที
เมื่อเห็นตงวั่งชุนจากไป เสิ่นอี้โจวก็เลิกคิ้วและมองไปยังเซี่ยชิงหยวน “คุณอยากเรียนภาษาอังกฤษงั้นเหรอ? หรือคุณอยากไปเรียนมหาวิทยาลัย?”
เซี่ยชิงหยวนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบว่า “เราทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง”
ประเทศจีนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และด้วยความเป็นสากล ภาษาอังกฤษก็จะกลายเป็นภาษาสำคัญด้วย
ชาติที่แล้วตอนที่เธอติดตามถานม่านไปพบลูกค้าหรืองานนิทรรศการเสื้อผ้า เธอก็ได้พบกับชาวต่างชาตินับไม่ถ้วน ตอนนั้นความรู้ของเธอมีจำกัดและไม่มีใครในโรงงานที่เก่งภาษาอังกฤษเลย ทำให้เธอพลาดโอกาสมากมาย
เธอมีพรสวรรค์ด้านเสื้อผ้า แต่ไม่ได้ผ่านการเรียนรู้อย่างเป็นระบบเมื่อเทียบกับพวกมืออาชีพแล้ว เพราะเธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อชดเชยข้อบกพร่องนี้
ครั้งนี้เธอต้องการคว้าโอกาสที่พลาดไปทั้งหมดจากเมื่อชาติที่แล้วเอาไว้
เสิ่นอี้โจวพึมพำ “ไม่เป็นไร ผมจะวางแผนการเรียนให้คุณในภายหลังและดูแลการเรียนของคุณทุกวันให้เอง”
เซี่ยชิงหยวนอยากจะร้องไห้ “ฉันยังตั้งท้องลูกของคุณอยู่นะ!”
เสิ่นอี้โจวยิ้มเบา ๆ และสัมผัสเธอ “ไม่สำคัญหรอก ผมจะสอนคุณเบื้องต้นเอง แค่ถือเป็นการศึกษาก่อนคลอดไปไง”
เซี่ยชิงหยวน “…”
……………………………………………