กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 430 เสิ่นอี้โจวอยู่บนฉีจิ่นจืออยู่ล่าง

บทที่ 430 เสิ่นอี้โจวอยู่บนฉีจิ่นจืออยู่ล่าง

บทที่ 430 เสิ่นอี้โจวอยู่บนฉีจิ่นจืออยู่ล่าง

บทที่ 430 เสิ่นอี้โจวอยู่บนฉีจิ่นจืออยู่ล่าง

ป้าอู๋ที่นอกประตูพูดว่า “คุณผู้ชายคะ เมื่อกี้ลูกพี่ลูกน้องของคุณชายฉีโทรมาบอกว่าคุณชายฉีอาจจะไปทำอะไรเข้า คุณท่านฉีเลยกำลังมาที่บ้านของเราด้วยความโกรธอย่างมากเลยค่ะ เธอขอให้คุณผู้ชายและคุณนายเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ”

ผู้คนในห้องตกใจและมองหน้ากันทันที

เซี่ยชิงหยวนตอบกลับ “เราเข้าใจแล้วค่ะ ป้าอู๋ไปทำงานต่อเถอะค่ะ”

ปี่เหลาซานดึงปี่ฟู่หมานออกไปทันที “เราสองคนควรไปซ่อนตัวก่อนนะ”

พวกเขาไม่รู้ว่าฉีหยวนซานได้รับข่าวอะไรมา แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกำลัง ‘โกรธ’ เพราะงั้นการมาที่นี่แบบนี้คือคิดจะฆ่าผู้คนรึเปล่า?

เขาไม่ต้องการให้ฉีจิ่นจือติดอยู่ตรงกลาง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงอีกฝ่ายก่อน

ฉีจิ่นจือรู้สึกอึดอัดทันทีที่เห็นปี่เหลาซานเป็นแบบนี้

แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว มันไม่เหมาะกับพวกเขาที่จะเปิดเผยตัวตนจริง ๆ นั่นแหละ

เขาพูดกับปี่เหลาซานว่า “อาจารย์ครับ อาจารย์กลับห้องของตัวเองก่อนเถอะ พอเสร็จธุระแล้ว ผมจะไปหาอาจารย์กับน้องชายอีกทีนะ”

ปี่ฟู่หมานพยักหน้า “เราจะรออยู่ที่นี่ให้พี่กลับมานะ”

ปี่เหลาซานกับปี่ฟู่หมานรีบออกจากห้องไปด้วยกัน และเซี่ยชิงหยวนก็เดินตามหลังไป

ปี่เหลาซานหันกลับมาแล้วพูดกับเธอว่า “เธอควรอยู่ที่นี่ด้วยกันและแกล้งทำเป็นว่าพวกเธอกำลังคุยกันนะ”

เนื่องจากฉีจิ่นจือกลายเป็นพ่อทูนหัวของเด็กแล้ว จึงสมเหตุสมผลมากที่ฉีจิ่นจือจะคุยอยู่กับเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจว

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็พยักหน้าและพูดว่า “ตกลงค่ะ”

ในขณะเดียวกันนี้ก็มีเสียงที่ชั้นล่างและหนึ่งในนั้นก็พูดเสียงดังเป็นพิเศษ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากฉีหยวนซาน

จากนั้นก็มีเสียงคนเดินขึ้นมาชั้นบน ป้าอู๋หยุดเขาไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงต้องเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น “ผู้อำนวยการฉีคะ คุณผู้ชายกับคุณนายกำลังคุยกับคุณชายฉีที่ชั้นบน หากคุณต้องการเจอพวกเขาก็เพียงแค่เรียกพวกเขาก็พอเถอะค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนผลักปี่เหลาซานและปี่ฟู่หมานที่ยังอยู่ตรงประตูอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบ “อาจารย์ไปที่ห้องข้าง ๆ เพื่อซ่อนก่อนแล้วกันค่ะ”

ห้องของปี่เหลาซานและปี่ฟู่หมานนั้นอยู่ใกล้กับบันได หากพวกเขากลับไปที่ห้องของตัวเองตอนนี้จะได้เจอกับฉีหยวนซานแน่นอน

ส่วนเสิ่นอี้โจวก็รีบดึงเซี่ยชิงหยวนให้นั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเขาในบริเวณใกล้เคียงกัน

หลังจากที่เซี่ยชิงหยวนนั่งลงแล้ว เสิ่นอี้โจวก็วางแผนจะนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ แต่โดยไม่คาดคิด เมื่อเขาหันกลับมาก็ดันชนเข้ากับฉีจิ่นจือที่เดินเข้ามาใกล้โดยไม่คาดคิ พวกเขาชนกันอย่างกะทันหันและเซไปชนกล่องไม้สองกล่องที่อยู่ด้านข้างโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งสองเอื้อมมือออกไปหยิบมันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

แต่จากนั้นหลังเข่าพวกเขาก็ชนกับโซฟา ไม่รู้ใครล้มก่อน แต่พอตอบสนองทั้งสองก็ล้มลงพร้อมกันแล้ว

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่หลังจากล้มลง มันกลายเป็นท่าที่เสิ่นอี้โจวอยู่ด้านบนและฉีจิ่นจืออยู่ด้านล่าง

เซี่ยชิงหยวนมองไปที่คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ “…”

เสิ่นอี้โจว “…”

ฉีจิ่นจือ “…”

ในเวลาเดียวกัน ประตูห้องหนังสือก็ถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน เสียงของฉีหยวนซานก็หยุดลง ทันใดนั้นแม้แต่ป้าอู๋ก็ปิดปากของเธอด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

ฉีหยวนซานเกือบเป็นลม

เส้นเลือดที่คอของเขาปรากฏขึ้น และเขาก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า “พวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่หะ!”

เซี่ยชิงหยวนตกใจกับเสียงตะโกนมากจนอดไม่ได้ที่จะหดคอ

เสิ่นอี้โจวกับฉีจิ่นจือช่วยกันยืนขึ้น พลางปัดฝุ่นที่ตัวเอง

สีหน้าของเสิ่นอี้โจวยังคงเหมือนเดิมและเขาก็เอ่ยทักทาย “ผู้อำนวยการฉี”

ฉีจิ่นจือเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิมแล้วมองฉีหยวนซานอย่างสบาย ๆ “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ฉีหยวนซานรู้สึกเหมือนเลือดลมของเขากำลังจะตีกลับและไม่สามารถพูดอะไรได้อยู่ครู่หนึ่ง

เสิ่นอี้โจวขยิบตาให้ป้าอู๋ และป้าอู๋ก็ออกไปก่อนจะปิดประตูให้สนิท

เสิ่นอี้โจวยื่นมือออกไปหาฉีหยวนซานแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการฉีมาที่นี่ในตอนค่ำแบบนี้ คุณมีเรื่องสำคัญที่จะหารือกับผมรึเปล่าครับ? ทำไมเราไม่มานั่งคุยกันก่อนล่ะ?”

ฉีจิ่นจือชิงพูดแทรก “ไม่ต้องวุ่นวายไปหรอก เขาน่าจะมาที่นี่เพื่อพบผมน่ะ”

จากนั้นฉีจิ่นจือก็พูดกับฉีหยวนซานว่า “พวกเรากลับไปกันก่อนดีไหม?”

โดยปกติแล้วฉีหยวนซานคงจะมีความสุขมากถ้าได้ยินฉีจิ่นจือใช้คำว่า ‘กลับกัน’ แต่ตอนนี้ประโยคนี้มันดูเหมือนเป็นการปกป้องเสิ่นอี้โจวซะเหลือเกิน

ลูกชายของเขากำลังกลัวว่าเขาจะปฏิบัติต่อเสิ่นอี้โจวอย่างโหดร้ายหรือทำอะไรสักอย่างใช่ไหม?

ฉีหยวนซานจ้องเขม็งที่ฉีจิ่นจือแล้วพูดว่า “ฉันยังไม่กลับ!”

หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็นั่งลงบนโซฟา

ห้องหนังสือที่บ้านบางครั้งก็ใช้เป็นห้องประชุม มันมีโซฟาหลายตัววางเข้าชุดกัน มีโซฟาเดี่ยว 2 ตัวตั้งอยู่ตรงข้ามกับโซฟาขนาดสองคนนั่ง ซึ่งมีขนาดไม่กว้างมากนัก

เซี่ยชิงหยวนนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวแล้ว และฉีหยวนซานก็นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวอีกตัวที่อยู่ใกล้เขาที่สุด

ฉีจิ่นจือถอนหายใจและนั่งลง

เสิ่นอี้โจวก็ถือโอกาสนั่งข้างฉีจิ่นจือ

เมื่อมองดูคนสองคนที่นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน ฉากนี้ช่างบาดตาฉีหยวนซานอย่างอธิบายไม่ถูก ฉีหยวนซานโกรธกับความคิดของตัวเองมากจนตบโต๊ะอีกครั้ง “นายสองคนนั่งแยกกันเดี๋ยวนี้เลย!”

เซี่ยชิงหยวน “?”

เสิ่นอี้โจว “?”

ฉีจิ่นจือ “…”

ฉีจิ่นจือไม่ต้องการขัดแย้งกับฉีหยวนซานที่นี่จึงพูดว่า “ไม่สะดวกหรอก ที่นี่มีสตรีมีครรภ์”

ฉีหยวนซานเหลือบมองเซี่ยชิงหยวนที่กำลังหลบสายตามองไปด้านข้าง และเขายิ่งโกรธมากขึ้น

แต่เมื่อเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงและกำลังตั้งครรภ์ เขาก็พยายามควบคุมเสียงของตัวเองอย่างเต็มที่พลางพูดว่า “คุณนายเสิ่น คุณไม่สนใจเลยเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้น “เรื่องอะไรเหรอคะ?”

ทำไมวันนี้ฉีหยวนซานดูไม่ปกติเลย?

เธอคิดว่าฉีหยวนซานรู้เรื่องเกี่ยวกับปี่เหลาซานและจะมาจับคน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น

แต่แล้วทำไมฉีหยวนซานถึงได้ดูโกรธขนาดนี้ล่ะ?

เธอเหลือบมองที่เสิ่นอี้โจวโดยไม่รู้ตัว และเสิ่นอี้โจวก็ยิ้มอ่อนโยนให้เธอเป็นการตอบ

ใช่แล้ว ถ้าเสิ่นอี้โจวไม่กังวลก็หมายความว่าสถานการณ์ไม่ร้ายแรง ดังนั้นเธอจึงสามารถแสร้งทำต่อไปได้

การมองของเซี่ยชิงหยวนที่เสิ่นอี้โจวถูกตีความผิดโดยฉีหยวนซาน เขาเข้าใจไปว่าเธอกำลังดูการแสดงออกของเสิ่นอี้โจว

ฉีหยวนซานพูดทันทีว่า “ตอนนี้เป็นจีนใหม่แล้ว ท่านประธานพรรคบอกว่าผู้หญิงสามารถครองท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่ง คุณไม่ต้องกลัวเขาหรอก ถ้าเขากล้าแตะต้องคุณแม้แต่ปลายเล็บ ผมจะสนับสนุนคุณเอง แม้ว่าผมจะต้องไปฟ้องถึงเมืองหลวงก็ตาม!”

เขาแตะต้องเสิ่นอี้โจวไม่ได้ แต่เป็นไปได้เหรอที่พวกเบื้องบนจะปล่อยให้เสิ่นอี้โจวทำตัวแบบนี้ต่อไป?

นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่!

เขายิ้มให้เซี่ยชิงหยวนและสีหน้าก็ดุร้ายยิ่งขึ้นเพราะความโกรธที่ไม่อาจระงับได้ “ต่อให้คุณไม่คิดถึงตัวเอง แต่คุณก็ควรคิดถึงลูกในท้องของคุณบ้างนะ คุณอยากโดนนินทาหลังคลอดหรือไง?”

เซี่ยชิงหยวนยิ่งสับสนมากขึ้น

ใครสามารถบอกเธอได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉีหยวนซาน

ฉีจิ่นจือทนฟังไม่ไหวอีกต่อไปแล้วจึงพูดหยุดไว้ “คุณกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรกับคุณนายเสิ่นน่ะ?”

เสิ่นอี้โจวยังพูดเสริมอีกว่า “ผู้อำนวยการฉี หากคุณมีอะไรจะพูด คุณก็ควรพูดออกมาตรง ๆ กับผมได้เช่นกันนะครับ ในตอนนี้ผมไม่เข้าใจคุณจริง ๆ”

เมื่อได้ยินชายหนุ่มสองคนพูดสอดประสานกัน ฉีหยวนซานรู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังจะแตกสลาย

เขามองดูชายหนุ่มทั้งสองคน ใบหน้าเริ่มซีดเผือด

เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “เอาละ งั้นฉันออกไปก่อนก็แล้วกัน พวกคุณจะได้คุยกันอย่างสะดวกมากขึ้นดีไหมคะ?”

—————————————————-

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset