กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 414 ฉ้อฉลสมรส

บทที่ 414 ฉ้อฉลสมรส

บทที่ 414 ฉ้อฉลสมรส

บทที่ 414 ฉ้อฉลสมรส

ชายชราที่ถูกพี่ใหญ่ตระกูลจางเรียกว่าลุงพูดอย่างเย็นชา “ฮึ่ม ถ้าฉันไม่มา ฉันคงไม่รู้ว่าแกกับเมียของแกกำลังกดขี่อยู่ในบ้านของคนอื่นแบบนี้หรอก แกยังมีศีลธรรมในหัวอยู่บ้างไหมหะ!?”

ผู้ใหญ่บ้านจางเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว และเป็นหัวหน้าตระกูลจาง อีกทั้งยังเป็นผู้ใหญ่บ้านจางเจี๋ยด้วย

พี่น้องจางเคยชินกับการกดขี่ครอบงำคนอื่น แต่พวกเขาไม่เคยทำอะไรที่เลวร้ายเกินไปในหมู่บ้าน ดังนั้นผู้ใหญ่บ้านจางคนนี้จึงทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง

แต่ตอนนี้ข้าราชการใหญ่ประจำมณฑลมาเยี่ยม และบอกให้เขามาดูการแสดงอันดีงามของหลานชาย

ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ลุงจางให้ความสำคัญกับมารยาทมาโดยตลอด แต่สิ่งที่หลานชายคนโตและหลานสะใภ้ของเขากำลังทำอยู่ตอนนี้มันเหมือนเป็นการตบหน้าเขาจริง ๆ!

เมื่อพี่ใหญ่ตระกูลจางได้สติ เขาหันกลับมาแล้วชี้นิ้วใส่เซี่ยจิ่งเฉิน “แกวางหลุมพรางฉัน!”

เซี่ยจิ่งเฉินยิ้มเยาะ “คำพูดที่นายเพิ่งพูดไป ไม่ใช่คำเดียวกับที่นายเคยขู่พ่อแม่ของฉันทุกครั้งที่มาที่บ้านของฉันหรอกเหรอ?”

ชายชราอีกคนที่เดินตามหลังผู้ใหญ่บ้านจางมาคือผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านซิ่งฮวา มีแซ่ว่าหยวน

เขาพูดกับผู้ใหญ่บ้านจาง “พี่จาง มายุติเรื่องนี้กันเถอะ”

จากนั้นสายตาของเขาก็จับจ้องไปยังพี่ใหญ่ตระกูลจางและภรรยา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ถ้ายังไม่ยอมก็สามารถไปเรียกตำรวจให้มาที่นี่ได้เลย ฉันไม่เชื่อว่าหลังจากการก่อตั้งประเทศจีนใหม่ คนชั่วร้ายหรือการกระทำที่ชั่วร้ายเช่นนี้จะยังถูกปล่อยให้ลอยนวลไปได้อีก!”

ผู้ใหญ่บ้านจางรู้สึกอับอายอีกครั้ง เขาจ้องมองหลานชายคนโตของตัวเองและพูดกับเสิ่นอี้โจว “เลขาธิการเสิ่น เป็นตระกูลจางของผมเองที่สอนลูกหลานไม่ดี ขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ”

เสิ่นอี้โจวยกมือขึ้น “ผมคงต้องขอรบกวนให้ผู้ใหญ่บ้านจางและผู้ใหญ่บ้านหยวนทำการตัดสินเพื่อครอบครัวของผมแล้วครับ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อส่งสัญญาณให้ทั้งสองคนนั่งลง และเซี่ยโยว่หมิงก็รีบลุกจากที่นั่งหลักของตน

เมื่อเห็นสิ่งนี้ พี่ใหญ่ตระกูลจางก็พูดว่า “ฮ่า ตระกูลเซี่ยของนายนี้มีความสามารถจริง ๆ!”

เขามองไปที่เสิ่นอี้โจวและพูดอย่างดุเดือด “เป็นข้าราชการใหญ่แท้ ๆ แต่กลับเล่นกลสกปรก!”

หลังจากได้ยินแบบนั้น สีหน้าของผู้ใหญ่บ้านจางมืดหม่นทันที “จางต้าหู่! แกพูดบ้าอะไรไอ้เจ้าสารเลว!”

ไอ้เด็กนี่ถ้าอยากตายด้วยตัวเองทำไมต้องลากเขามายุ่งด้วย!

จางอวี้เอ๋อไปที่เมืองเตียนเฉิงแล้วก่อเรื่องเสื่อมเสีย แต่เกิดอะไรขึ้นต่อไปล่ะ? เขาคงจะไม่ลงเอยด้วยการที่ชื่อเสียงถูกทำลายและถึงขั้นถูกส่งเข้าคุกด้วยหรอกใช่ไหม?

ตระกูลเซี่ยสามารถทำให้โกรธเคืองได้ง่าย ๆ หรือไง?

เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหลานชายคนโตของเขาถึงโง่มากขนาดนี้!

เขาโกรธมากจนตบโต๊ะแล้วพูดว่า “แกและเมียของแกควรขอโทษตระกูลเซี่ยซะ! แกไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ข้ออ้างเรื่องเด็กเพื่อมาหาตระกูลเซี่ยแล้วขอผลประโยชน์ใด ๆ ในอนาคตอีก!”

ตอนนี้จางต้าหู่เข้าใจแล้วว่าตระกูลเซี่ยกำลังขุดหลุมและรอให้เขากระโดดลงไป

เขาพูดด้วยสีหน้าหมองคล้ำ “ลุงครับ สิ่งที่ลุงพูดมันไม่สมเหตุสมผลเลย! ซือถงก็เป็นลูกของเซี่ยจิ่งเฉินเหมือนกันนะ มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าที่เขาจะต้องให้ค่าเลี้ยงดูเด็กบ้าง ในฐานะที่ผมเป็นลุงของหลานสาว เมื่อเห็นชีวิตของหลานสาวยากลำบาก ผมก็ต้องมาขอเงินจากคนเป็นพ่อของเธอสิ แล้วมันผิดตรงไหน?”

เขามองไปยังเสิ่นอี้โจว “ตระกูลเซี่ย อย่าคิดว่าเพียงเพราะมีข้าราชการใหญ่เป็นลูกเขยก็สามารถปกปิดท้องฟ้าได้ด้วยมือเดียวได้นะ!”

เสิ่นอี้โจวดูสงบนิ่ง เทชาให้กับผู้ใหญ่บ้านจางและหยวน เขาเมินเฉยจางต้าหู่จนสุดขั้ว

เซี่ยจิ่งเฉินอดไม่ได้ที่จะพูด “ถ้านายเอาเงินไปแล้วปฏิบัติต่อลูกของฉันอย่างดี ฉันจะไม่พูดอะไรเลย แต่นี่ทำอะไรบ้าง? นายทุบตีและดุด่าลูกของฉันตลอดทั้งวัน ทั้งยังเอาเงินของครอบครัวฉันไปเลี้ยงดูลูก ๆ ของนายเองอีกเนี่ยนะ!?”

“แม้แต่เสื้อผ้าที่ลูกของฉันใส่ก็ยังถูกถอดออกเพื่อเอาไปให้ลูก ๆ ของนายใส่แทน ทุกครั้งที่พาถงถงมาหา บนตัวของถงถงไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ สักชิ้นบนร่างกายของเธอเลย!”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เซี่ยจิ่งเฉินก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ ชี้ไปที่จางต้าหู่และสาปแช่ง “พวกนายมันเป็นพวกคนใจดำยิ่งกว่าเดรัจฉาน!”

หลังจากพูดคำดังกล่าวออกไป สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางก็เริ่มคร่ำครวญ “โถ่ถัง มโนธรรมของฟ้าดินอยู่ที่ไหนกัน! ตั้งแต่ซือถงมาบ้านเรา เราก็ไม่กล้ากินมากเหมือนก่อน เรามอบสิ่งดี ๆ ให้เธอทั้งหมด ส่วนบาดแผลบนร่างกายของเธอก็เกิดจากการที่เธอออกไปเล่นข้างนอกและล้มเท่านั้น ทำไมถึงต้องมาพูดโทษเราแบบนี้ด้วย?”

ขณะที่พูดแบบนั้น เธอก็แสร้งทำเป็นเช็ดน้ำตาและตบต้นขาตัวเอง “เรานี่มันน่าสงสารจริง ๆ! ทำดีไม่ได้ดีจริง ๆ!”

เมื่อเผชิญกับเสียงร้องของสะใภ้ใหญ่ตระกูลจาง ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เสียงแหลมยิ่งกว่าหมูถูกเชือด!

สะใภ้ใหญ่ตระกูลจางก็แค่แกล้งร้องไห้ เมื่อสิ้นเสียงหอนนั้นเสียงของเธอก็แหบและไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ได้อีกแล้ว

เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างเงียบ ๆ แต่ถูกผู้ใหญ่บ้านจางจ้องเขม็ง ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าว่างเปล่า

สะใภ้ใหญ่ตระกูลจาง “…”

เธอหันไปมองที่จางต้าหู่โดยไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้ปลอมต่อไปหรือไม่

จางต้าหู่ก็มองไปที่เมียของตัวเองเช่นกัน

เขานั่งลงอย่างหนักบนเก้าอี้ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “ยังไงซะ ซือถงก็เป็นหลานของผม และน้องสาวของผมก็เป็นแม่ของเด็กด้วย ผมจะยอมเรื่องนี้ง่าย ๆ ได้ยังไง?”

“เมื่อตอนที่ทำเรื่องหย่าก็ตกลงกันชัดเจนแล้วด้วยว่าซือถงจะถูกมอบให้อวี้เจียว ต่อให้คุณลุงจะพูดแทนมันก็เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นหากนายปล่อยวางไม่ได้แล้วทำไมนายถึงหย่ากับอวี้เจียวตั้งแต่แรก เว้นแต่จะเป็นการแต่งงานใหม่ ไม่งั้นนายก็เอาเด็กกลับไปไม่ได้!”

ดีที่สุดถ้าเป็นการแต่งงานใหม่ เขารู้มาโดยตลอดว่าเงินและอำนาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และตอนนี้ตระกูลเซี่ยก็มีทั้งสองพร้อม

ถ้าจางอวี้เจียวแต่งงานใหม่กับเซี่ยจิ่งเฉินจริง ๆ เขาก็สาบานว่าจะบังคับให้จางอวี้เจียวยอมอ่อนข้อให้เซี่ยจิ่งเฉินในเรื่องต่าง ๆ และมันจะเป็นการดีที่สุดที่จะมีลูกชายอีกคนเพื่อที่ทุกอย่างจะได้มั่นคง

เซี่ยชิงหยวนได้ยินเสียงคำพูดของจางต้าหู่จากห้องข้างๆ

เดิมทีเธอต้องการให้เงินแก่ตระกูลจางเพื่อซื้อความสัมพันธ์กับเซี่ยซือถง

แต่หลังจากเมื่อคืนที่เธอคิดทบทวน

ตระกูลจางเลวร้ายจนกู่ไม่กลับแล้ว พวกเขาไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับจางอวี้เอ๋อเมื่อครั้งที่แล้วเลย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการให้เงิน นอกจากพวกเขาต้องยอมมอบเด็กมาให้อย่างเชื่อฟังแล้ว เธอจะกรีดเนื้อเฉือนหนังพวกเขาด้วย!

ผู้ใหญ่บ้านจางก็โกรธมากจนหนวดเคราของเขาแทบจะตั้งเด่ ตามคำพูดของจางต้าหู่มันไร้ยางอายถึงขีดสุด!

เสิ่นอี้โจวหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ในกรณีนี้ผมมีบางอย่างที่อยากจะแสดงให้ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองคนดูด้วยครับ”

หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบรายงานการทดสอบที่เตรียมไว้จากโต๊ะข้าง ๆ ออกมาแล้วยื่นให้พวกเขาทั้งสอง

ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองเคยเข้าชั้นเรียนการอ่านออกเขียนได้มาก่อน และพวกเขายังฝึกฝนอย่างหนักด้วยตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถอ่านคำศัพท์ง่าย ๆ ได้

เมื่อสายตาของพวกเขามองไปที่บรรทัดสุดท้ายของผลลัพธ์การทดสอบ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

เซี่ยซือถงไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเซี่ยจิ่งเฉินหรอกเหรอ?

พวกเขาสงสัยว่าสายตาของเขาฝาดไป จึงเพ่งมองดูอีกครั้งแล้วจึงมองหน้ากัน ซึ่งทั้งสองเห็นความตกใจในดวงตาของกันและกันอย่างชัดเจน

เนื่องจากเซี่ยซือถงไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของเซี่ยจิ่งเฉิน แล้วทำไมเขาถึงยังเต็มใจที่จะเป็นพ่ออีก?

หรือนี่คือรายงานปลอมที่ตระกูลเซี่ยเอามาหลอกพวกเขา?

ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหันกลับไปดูรายงานการทดสอบอีกครั้ง มันมีตราประทับสีแดงของราชการประทับอยู่มุมขวาบน ซึ่งเป็นของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะมณฑล

เอกสารนี้เป็นของจริง

แต่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

พวกเขาสับสน จางต้าหู่มองไปยังผู้ใหญ่บ้านสองคนที่กำลังถือเอกสาร สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ

เขามองไปที่เสิ่นอี้โจว “เป็นไปได้ไหมว่าพอนายเห็นว่าตัวเองล้มเหลวที่จะหาเหตุผลมาอ้างแล้วก็เลยมีความคิดคดเคี้ยวขึ้นมาอีกครั้งหะ!”

ผู้ใหญ่บ้านจางตั้งสติได้และตะโกนใส่ทันที “ไอ้พวกเวร! ดูสิว่าตระกูลจางของแกทำเรื่องอะไรลงไป!”

จางต้าหู่รู้สึกตะลึงกับผู้ใหญ่บ้านจาง และเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เขียนบนกระดาษ เขาเริ่มมีความรู้สึกไม่ดีมากขึ้น

เสิ่นอี้โจวพูดอย่างสบาย ๆ “ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองได้อ่านรายงานการทดสอบแล้ว ดังนั้นผมเดาว่าผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีกมากมายนะครับ”

“ในตอนแรกตระกูลจางบังคับให้ตระกูลเซี่ยแต่งงานโดยอ้างว่าจางอวี้เจียวตั้งครรภ์กับพี่รองของผม ผู้คนในหมู่บ้านซิ่งฮวาและหมู่บ้านจางเจี๋ยต่างรู้เกี่ยวกับเงินสินสอดสองร้อยหยวนดี”

“พ่อตาของผมเป็นคนจิตใจดี จึงตกลงกับการแต่งงานครั้งนั้น แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าพ่อของเด็กในท้องของจางอวี้เจียวกลับเป็นคนอื่นจริง ๆ”

เขามองไปยังจางต้าหู่พร้อมกับยิ้มเยาะเย้ย “จางต้าหู่ ตระกูลจางของนายมีแผนใหญ่ขนาดนี้ สิ่งที่นายทำคือการฉ้อฉลสมรส ซึ่งผิดกฎหมาย เข้าใจรึเปล่า?”

การฉ้อฉลสมรสเป็นคำที่ใช้เฉพาะกับคนรุ่นหลังเท่านั้น แต่เสิ่นอี้โจวใช้มันในวันนี้เพื่อทำให้จางต้าหู่หวาดกลัวได้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ยังไม่ได้มีการเขียนกฎหมายเรื่องการฉ้อฉลสมรส แต่หากมีการรายงานพฤติกรรมของตระกูลจางต่อสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาไปนอนในคุกได้แล้ว

สีหน้าของจางต้าหู่เปลี่ยนเป็นสีเทา และมองไปที่เสิ่นอี้โจวด้วยความไม่เชื่อ

เขารู้ได้ยังไง?

ผู้ใหญ่บ้านจางพูดอย่างเคร่งเครียด “จางต้าหู่ แกมีอะไรจะอธิบายไหม!!”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset