บทที่ 318 ไฟคลอกตัวเอง
บทที่ 318 ไฟคลอกตัวเอง
ความลำบากใจที่หาได้ยากปรากฏบนใบหน้าของเสิ่นอี้โจว
เขาเอามือแตะจมูกแล้วพูดว่า “บางทีเราอาจจะเข้าใจผิดก็ได้”
เขาเคยเห็นพวกคนที่เรียกว่าหลงหยาง*[1]ในสมุดภาพมาแล้ว ตอนนี้เมื่อคิดว่ามันอาจเกิดขึ้นกับตัวเองอยู่ ชั่วครู่หนึ่งเขาก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
เซี่ยชิงหยวนส่ายหัวอย่างจริงจัง “ไม่ ฉันคิดว่ามันยังเป็นไปได้นะ คุณเองก็คงพูดไม่ได้ว่าเขาอาจมีงานอดิเรกในการมองส่วนนั้นของผู้คนหรอกใช่ไหม?”
ตอนที่อยู่เมืองกว่างโจว เธอไม่เคยเห็นฉีจิ่นจือมองใครด้วยสายตาเช่นนี้มาก่อน
เธอใช้มือเล็ก ๆ แตะแก้มของเขา ดึงมันทั้งสองข้างแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “นอกจากนี้คุณหล่อมากเลยนะ จริงไหมล่ะ?”
เฉินอี้โจวเลิกคิ้ว “อย่าพูดเรื่องไร้สาระกับสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงสิ”
เมื่อเห็นเขาดูจริงจังมาก เซี่ยชิงหยวนก็หัวเราะอีกครั้ง “อย่าบอกนะว่าคุณกำลังอาย?”
เสิ่นอี้โจวคว้ามือของภรรยา แล้วพลิกตัวเธอมาไว้ใต้ร่างเขา “คืนนี้ผมใจดีกับคุณมากไปหน่อยสินะ คุณก็เลยยกหางขึ้นโดยลืมว่าผมเป็นคนของคุณใช่ไหม?”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยืดตัวขึ้นทันที
เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของสามี เซี่ยชิงหยวนก็กลั้นหายใจ
จนในที่สุดก็เอ่ยออกมาได้อย่างยากลำบาก “เราแค่คุยกันเองไม่ใช่เหรอ?”
เสิ่นอี้โจวยิ้ม “แต่จากสีหน้าของคุณแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แน่ ๆ”
ฉีจิ่นจือมองมาที่เขาก็จริง แต่เธอทำท่าเหมือนดูเรื่องสนุกอยู่ก็สมควรที่จะถูกลงโทษ
เซี่ยชิงหยวนประท้วงทันที “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
เสิ่นอี้โจวก้มหัวลงแล้วจูบติ่งหูเล็ก ๆ ของเธอ “ผมเป็นคนแบบไหนคุณยังไม่รู้อีกเหรอ? แต่ถ้าคุณลืมก็ไม่เป็นไร ผมจะเตือนคุณให้อีกครั้งเอง!”
เซี่ยชิงหยวน “ฉัน…อื้ม!”
เธอแค่พูดในสิ่งที่รู้เท่านั้นเองนะ แล้วทำไมเธอกลับถูกไฟคลอกซะเองแบบนี้?
และไฟนี้…มันก็ไหม้รุนแรงจริง ๆ
…
เมื่อเซี่ยชิงหยวนตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ใต้ตาของเธอมีสีดำคล้ำ
เธอนวดเอวที่เจ็บปวดแล้วจ้องมองไปยังเสิ่นอี้โจวที่กำลังยืนอยู่ข้างเตียง และแต่งตัวเต็มยศแล้ว
เมื่อนึกถึงวิธีที่เขาลงโทษเมื่อคืนนี้ เธอก็โกรธมาก
เป็นเพราะเธอไม่สามารถเอาชนะเขาได้ในแง่ของความแข็งแกร่งและขนาดร่างกายใช่ไหม เขาเลยรังแกเธอแบบนี้?
ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง “คุณมันสัตว์ร้าย!”
เสิ่นอี้โจวดูสดชื่น นั่งบนเตียงแล้วจูบหน้าผากของเธอ “เขียนข้อกำหนดอื่น ๆ ที่คุณต้องการในการตกแต่งร้านมานะ พอคุณส่งมาแล้ว ผมจะจัดให้คนไปทำให้”
เมื่อเสิ่นอี้โจวพูดแบบนี้ เธอก็ไม่สามารถโกรธเขาได้อีกต่อไป
“อืม!” เธอตอบ
เมื่อเห็นภรรยาเป็นแบบนี้ เสิ่นอี้โจวก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก “ถ้าคุณยังไม่ลุกขึ้น ผมจะจูบคุณอีกครั้งนะ”
เซี่ยชิงหยวน “…”
วินาทีต่อมาเธอก็ลุกขึ้นนั่งทันที และยืนห่างจากเขาสองเมตร แม้ใบหน้าจะแดงก่ำแต่ก็ดูสวยงามจริง ๆ “ถึงแม้คุณช่วยฉันตกแต่งร้าน มันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าคุณเป็นสัตว์ร้ายได้หรอกนะ!”
พูดจบเธอก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างเร่งรีบ
เสิ่นอี้โจวมองไปประตูที่ปิดอยู่ พลางส่ายหัวแล้วหัวเราะ
หลังจากที่เซี่ยชิงหยวนอาบน้ำและลงไปชั้นล่าง เสิ่นอี้โจวและคนอื่น ๆ ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
ป้าอู๋สังเกตเห็นหญิงสาวเป็นคนแรก และทักออกมาด้วยรอยยิ้ม “คุณนาย”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “อรุณสวัสดิ์ค่ะป้าอู๋”
เสิ่นอี้หลินก็ยืดหน้าอกเล็ก ๆ ของเขาออกมาแล้วตะโกน “พี่สะใภ้!”
เขาสวมชุดนักเรียนเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสีน้ำเงิน
เธอจำได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เขาไปโรงเรียน เซี่ยชิงหยวนเอ่ยชมทันที “วันนี้อี้หลินของเราดูน่ารักมากเลยนะ!”
ใบหน้าของเสิ่นอี้หลินระเบิดรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เม้มริมฝีปากทันที พยายามไม่หัวเราะออกมา “ผู้ชายไม่ควรถูกชมว่าน่ารักสิ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็หัวเราะ
ในขณะที่เธอพูด เซี่ยชิงหยวนก็เดินลงมาชั้นล่างแล้ว หญิงสาวลูบศีรษะของเสิ่นอี้หลินและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาละ อี้หลินของเราหล่อมากเลย”
ทั้งเสิ่นอี้โจวและเสิ่นอี้หลินเติบโตขึ้นมาโดยการเอาข้อดีของพ่อแม่ของพวกเขามาผสมกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้ว เสิ่นอี้โจวดูเหมือนผู้เฒ่าเสิ่นและแม่เฒ่าเสิ่นมากกว่า ในขณะที่เสิ่นอี้หลินดูเหมือนเสิ่นเหยียนและหลินตงซิ่ว
ว่ากันว่าแม่เฒ่าเสิ่นเคยเป็นสาวงามระดับต้น ๆ และเธอกับผู้เฒ่าเสิ่นก็หมั้นกันมาตั้งแต่เด็ก
ผู้เฒ่าเสิ่นหล่อมากเมื่อตอนที่เขายังเด็ก และลูก ๆ ของพวกเขาก็ไม่เลวเช่นกัน
เธอไม่เคยพบกับแม่เฒ่าเสิ่นมาก่อน หญิงสาวได้ยินเพียงหลินตงซิ่วพูดถึงเรื่องนี้หลังจากที่เธอแต่งงานแล้วเท่านั้น
เสิ่นอี้โจวถามเซี่ยชิงหยวน “เช้านี้คุณมีแผนอะไรไหม?”
เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “หลังจากว่างแล้วฉันวางแผนที่จะไปตลาดสดเพื่อซื้อเครื่องในเนื้อวัวน่ะ”
เมื่อวานนี้เพราะเธอได้พบกับฉีจิ่นจือ เธอกังวลจนไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อของต่ออีกเลย
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “พาอี้หลินไปโรงเรียนด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาลกับผมไหม?”
เกือบทุกคนในมณฑลยูนนานรู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของเสิ่นอี้โจว ต้องขอบคุณไฟที่ฝูเถียนจริง ๆ
เพียงแต่ว่าเสิ่นอี้โจวใช้ยาตะวันตกและเซี่ยชิงหยวนใช้ยาจีน
นอกจากนี้เสิ่นอี้โจวยังหยุดกินยามาระยะหนึ่งแล้ว
เขาจงใจบอกให้เธอไปกับเขา เพียงเพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นคิดไม่ดีกับเซี่ยชิงหยวน
อาการของเซี่ยชิงหยวนก็ดีขึ้นมากเช่นกัน โดยพื้นฐานแล้วเธอต้องดื่มยาจีนสัปดาห์ละสองครั้งเท่านั้น ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและการฝังเข็ม
ตอนที่ขอให้ป้าอู๋ต้มยาให้ ป้าอู๋ไม่แม้แต่จะถามคำถามสักคำเลย และแค่คิดว่าเซี่ยชิงหยวนกำลังดูแลร่างกายของตัวเอง
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนเดินผ่านบ้านของพวกเขา และถามเช่นกันว่า “ป้าอู๋ ทำไมฉันถึงได้กลิ่นยาจีนจากบ้านของคุณบ่อยมากเลยล่ะ?”
ป้าอู๋ตอบเพียงว่า “แขนและขาของฉันไม่ค่อยดีน่ะ หมอเลยสั่งยาให้ฉันกิน”
แน่นอนว่าข้ออ้างนี้ดูไม่น่าเชื่อเลย “เจ้านายของคุณใจดีถึงขนาดให้คุณต้มยาที่นี่เลยเหรอ?”
แต่ป้าอู๋ก็ตอบกลับโดยไม่มีพิรุธเลยเช่นกัน “คุณผู้ชายกับคุณนายและครอบครัวของพวกเขาเป็นคนดีมากน่ะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็ก้มหัวลงไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้
หลินตงซิ่วได้ยินการสนทนาของพวกเขาในสนาม และเล่าเรื่องนี้ให้กับเซี่ยชิงหยวนฟัง
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพยักหน้า “ป้าอู๋คนนี้ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ”
ตอนนี้เมื่อเธอได้ยินเสิ่นอี้โจวพูดคุยเกี่ยวกับการไปโรงพยาบาล ป้าอู๋ก็ไม่กะพริบตาและพูดว่า “คุณนายค่อย ๆ กินนะคะ” แล้วกลับไปที่ห้องครัว
เซี่ยชิงหยวนตอบกลับ “ขอบคุณค่ะ”
หลังจากมาอยู่ที่มณฑลอวิ๋นได้หลายวันแล้วก็ถึงเวลาไปโรงพยาบาลเสียที
หลินตงซิ่วยังกล่าวอีกว่า “พวกลูกไปโรงพยาบาลก็ดี ทำการตรวจร่างกายสักหน่อยก็ไม่ได้เสียหายอะไรหรอก”
เสิ่นอี้หลินมีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าพี่ชายและพี่สะใภ้จะไปส่งเขาที่โรงเรียน “เย้ เยี่ยมเลย!”
…
เซี่ยชิงหยวนอธิบายให้ป้าอู๋ฟังว่าวันนี้ต้องซื้อของอะไรเข้าบ้านบ้าง จากนั้นเธอกับเสิ่นอี้โจวก็ไปส่งเสิ่นอี้หลินที่โรงเรียน
เมื่อฟังคำสอนของเสิ่นอี้โจวที่มีต่อเสิ่นอี้หลินตลอดทาง รอยยิ้มที่มุมริมฝีปากของเซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะลึกยิ่งขึ้น
เธอวางมือบนหน้าท้องส่วนล่าง มองดูทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอกรถและอดไม่ได้ที่จะคิดว่าในอนาคตเมื่อเสิ่นอี้โจวกลายเป็นพ่อ เขาจะปฏิบัติต่อลูกเช่นเดียวกับที่ทำต่อเสิ่นอี้หลินตอนนี้หรือไม่
หลังจากส่งเสิ่นอี้หลินไปโรงเรียนแล้ว ทั้งสองก็ไปโรงพยาบาลด้วยกัน
หลังจากที่หมอหมิ่นตรวจร่างกายเสิ่นอี้โจวอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ “เลขาธิการเสิ่นฟื้นตัวได้ดีมากเลยครับ และตอนนี้ก็เหมือนกับคนปกติที่มีสุขภาพดี นับจากนี้ไปก็ให้ความสนใจกับการกินอาหารให้ตรงเวลาและมาตรวจร่างกายเป็นประจำนะครับ โดยทั่วไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนกับเสิ่นอี้โจวก็มองหน้ากันและยิ้มออกมา ในที่สุดก็ได้ยินข่าวดีที่พวกเขาต้องการเสียที
เสิ่นอี้โจวกระแอมแล้วถามว่า “หมอหมิ่น โปรดบอกผมหน่อยครับว่าผมจะมีลูกได้เมื่อไหร่?”
*[1] หลงหยาง คือ เป็นคำเรียกชายรักชาย