บทที่ 264 ความรู้สึกแปลก ๆ
บทที่ 264 ความรู้สึกแปลก ๆ
เฮ่ออวี้เฟิงมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาก่อนจะตบมือออกไป “ฉันไม่จำเป็นต้องบอกแก”
เซี่ยชิงหยวนสามารถบอกได้ว่าเฮ่ออวี้เฟิงกับชายแปลกหน้านี้รู้จักกัน และพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีต่อกันเสียเท่าไหร่นัก
เธอจับมืออาเซียงแน่น หวังว่าเรื่องราวจะไม่ร้ายแรงเกินไป
อาเซียงเองก็กลัวมากเช่นกัน เธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน
เธออยากโทษตัวเองว่าทำไมเธอต้องพยายามหยิบกางเกงในตัวนั้นด้วย
เมื่อเหมือนถูกหยาม ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังชายแปลกหน้าก็ก้าวมาข้างหน้า “ลูกพี่ปิน”
หนิวปินยกมือขึ้นส่งสัญญาณไม่ให้ลูกน้องของตัวเองเข้ามายุ่ง
เขามองไปที่เซี่ยชิงหยวน ซึ่งถูกเฮ่ออวี้เฟิงกั้นไว้มิด พลางคายหมากฝรั่งในปากทิ้ง “ทำไมนายถึงเอาแต่ซ่อนภรรยาตัวน้อยไว้ข้างหลังเล่า ไม่แนะนำให้รู้จักกับพี่ชายของนายเหรอ เฮ่ออวี้เฟิง?”
เฮ่ออวี้เฟิงพ่นลมหายใจ “เธอคือภรรยาของเพื่อนฉัน และเธอจะออกจากเมืองในอีกสองวัน”
เฮ่ออวี้เฟิงพูดทุกคำอย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินแบบนี้ หนิวปินก็ยิ้มกริ่มขึ้นมา
เขาพูดต่อว่า “มีคนว่ากันว่าไม่มีอะไรอร่อยไปกว่าเกี๊ยวและไม่มีอะไรสนุกมากกว่าเมียเพื่อน เพื่อนของแกก็คือเพื่อนของฉันและพวกเราทั้งหมดก็เป็นเพื่อนกัน มันจะสนุกกว่านะถ้าเราเล่นด้วยกัน แกว่าไหม ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็หัวเราะออกมาดังลั่น
เมื่อเห็นแบบนี้ พวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลังหนิวปินก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
เหล่าไต้เห็นแบบนี้ก็อยากจะก้าวไปข้างหน้า แต่ก็นึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช่ยุคของโจวจิ่นจืออีกต่อไป
เมื่อเขากังวลว่าจะทำอย่างไร เฮ่ออวี้เฟิงก็ขยิบตาให้เขาและบอกให้ตนพาเซี่ยชิงหยวนและคนอื่น ๆ ออกไปก่อน
หัวใจของเหล่าไต้เต้นไม่เป็นจังหวะ สงสัยว่าเฮ่ออวี้เฟิงต้องการต่อสู้กับคนเหล่านี้หรือไม่
เหล่าไต้จึงขยิบตาให้เซี่ยชิงหยวน และขอให้เธอตามเขาออกไปก่อน
เซี่ยชิงหยวนกังวลและรู้ว่ามันอาจจะดีที่สุดสำหรับเฮ่ออวี้เฟิงถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่
เธอจึงดึงอาเซียงและวางแผนที่จะจากไปพร้อมกัน
แต่หลังจากเดินไปได้เพียงสองสามก้าว หนิวปินก็เรียกเซี่ยชิงหยวน “สาวสวย อย่าเพิ่งไปสิ ไปดื่มชาด้วยกันก่อน!”
เซี่ยชิงหยวนเพิกเฉยต่ออีกฝ่ายและเร่งเดินเร็วขึ้น
นี่เหมือนกับการหักหน้าหนิวปินต่อหน้าต่อตา
ตั้งแต่โจวจิ่นจือเสียชีวิตและเขาได้เป็นเจ้าถิ่นแล้ว ใครบ้างที่ไม่ไว้หน้าเขาและไม่เรียกลูกพี่ปินอย่างเคารพ?
เขากำลังจะเดินผ่านเฮ่ออวี้เฟิงและไปดึงเซี่ยชิงหยวน
แต่เฮ่ออวี้เฟิงกลับคว้าข้อมือของเขา “พอได้แล้ว อย่างที่ฉันพูด เธอเป็นภรรยาของเพื่อนฉัน”
เฮ่ออวี้เฟิงยังคงมีใบหน้าที่สงบ แต่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธอย่างมากบราวนี่ออนไลน์
หนิวปินยังพูดอย่างชั่วร้าย “เฮ่ออวี้เฟิง แกคิดว่าที่เมืองกว่างโจวนี่เป็นเหมือนเมื่อสิบปีก่อนเหรอหะ? ให้ฉันย้ำความจำแกนะ ตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้าที่นี่! ถ้าแกยังอยากจะยุ่งเกี่ยวกับฉันต่อไปก็อย่ามาหาว่าฉันโหดร้ายแล้วกัน!”
กลับกัน เฮ่ออวี้เฟิงไม่ได้รู้สึกกลัวคำขู่ของอีกฝ่ายเลยสักนิด
เขาจับแขนของหนิวปินไว้แน่นแล้วค่อย ๆ พูดตัดบท “ไม่ว่าจะเมื่อสิบปีก่อนหรือสิบปีต่อจากนี้ ฉันก็สามารถฆ่าแกได้ไม่เกินนาทีหรอก”
เมื่อพูดจบก็มีเสียงดังกร๊อบ และหนิวปินก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แขน
เขาร้องด้วยความเจ็บปวดและทรุดตัวลงคุกเข่าทันที
เมื่ออาเซียงได้ยินเสียง เธอมองย้อนกลับไปอย่างกล้าหาญ
เธอเห็นว่าหนิวปินซึ่งเมื่อกี้โอหังมากกำลังถูกเฮ่ออวี้เฟิงบดขยี้ เขาทำได้เพียงคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตาเท่านั้น
เซี่ยชิงหยวนเอ่ยปาก “ไปเร็ว”
อาเซียงถูกขัดช่วงความคิดและรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับเซี่ยชิงหยวน
ทันทีที่เซี่ยชิงหยวนออกมาจากตลาดค้าส่ง เธอก็พูดกับเหล่าไต้ว่า “เหล่าไต้ไปแจ้งตำรวจกันเถอะ”
นี่คืออาณาเขตของหนิวปิน ถ้าอีกฝ่ายเรียกลูกน้องมามากกว่าเดิม เฮ่ออวี้เฟิงอาจไม่สามารถรับมือไหวก็ได้
เหล่าไต้พยักหน้า “ได้ ๆ”
เขารีบวิ่งไปที่ตู้โทรศัพท์และโทรหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ
อาเซียงดูกระวนกระวายเช่นกัน “พี่สาวเซี่ย พี่ชายเฮ่อเขาจะเป็นอะไรไหม?”
เซี่ยชิงหยวนพึมพำ “ตอนนี้น่าจะยังไม่เป็นไรนะ เราซ่อนอยู่ที่นี่สักพักรอดูสถานการณ์ไปก่อนเถอะ”
เฮ่ออวี้เฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายเพราะพวกเธอ เซี่ยชิงหยวนจึงไม่สามารถวิ่งหนีไปโดยไม่สนใจเขาได้
หลังจากที่เหล่าไต้กลับมาจากการโทรหาตำรวจ ก่อนที่เขาจะเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาก็รายงานสถานการณ์ให้เซี่ยชิงหยวนฟังทันที
“ฉันเพิ่งโทรหาตำรวจ และตำรวจก็พูดว่า…”
ทันใดนั้นเขาก็เห็นดวงตาของเซี่ยชิงหยวนและอาเซียงแข็งค้างกะทันหัน และพวกเธอต่างก็มองไปทางข้างหลังเขา
เหล่าไต้ตกใจ สงสัยว่าหนิวปินพาคนตามพวกเขาทันแล้วเหรอ?
เขาหันกลับไปมองด้วยความกลัว และกระแทกเข้ากับกำแพงเนื้อแข็ง
มีคราบเหงื่อไคลและรอยแผลเป็นมากมายบนกล้ามเนื้อที่พองโต หัวใจของเหล่าไต้เต้นไม่เป็นจังหวะ
เขาเงยหน้าขึ้นและพบว่าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเฮ่ออวี้เฟิงที่เสื้อผ้าขาดวิ่นจนเหลือแขนเสื้อเพียงครึ่งเดียว
ซึ่งเฮ่ออวี้เฟิงเพียงแค่ฉีกมันออกแล้วกำมันไว้ในมือเท่านั้น
เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนและคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่ประตูตลาด อารมณ์ที่ซับซ้อนก็ฉายชัดในดวงตาของเฮ่ออวี้เฟิง ก่อนเขาจะเอ่ยว่า “ไปกันเถอะ”
เขาเป็นผู้นำพาทุกคนออกจากที่นี่ เซี่ยชิงหยวนไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรีบดึงอาเซียงให้ตาม ไป
อาเซียงเดินตามเซี่ยชิงหยวน พลางมองไปที่ชายร่างสูงข้างหน้าเธอ
ความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจของเธอ
เหล่าไต้รีบก้าวตามพวกเขา “พวกเธอรอฉันด้วยสิ!”
ทุกคนกลับไปที่ร้านซ่อมรถของเฮ่ออวี้เฟิง และชายหนุ่มก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอื่นแล้ว
เซี่ยชิงหยวนถามอย่างเป็นกังวล “เมื่อกี้คุณกับลูกพี่ปินอะไรนั่น… คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า?”
เฮ่ออวี้เฟิงหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเขาอย่างไม่แยแส “มันก็แค่ตัวตลก ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ทุกอย่างยังเหมือนเดิม คุณไปที่ไหนผมจะไปที่นั่นด้วย”
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เฮ่ออวี้เฟิงมีชีวิตเป็นมายังไง
แต่แน่นอน เธอจะไม่ขุดคุ้ยประวัติส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล
เธอพยักหน้าให้เฮ่ออวี้เฟิงและพูดว่า “วันนี้ขอบคุณมากเลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เราก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องจะลงเอยยังไงแล้ว”
ดวงตาของเฮ่ออวี้เฟิงกวาดไปที่ใบหน้าของเซี่ยชิงหยวน แล้วมองไปที่ อาเซียง ซึ่งกำลังก้มหน้าลงก่อนจะกล่าวว่า “คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก นี่เป็นข้อตกลงระหว่างเสิ่นอี้โจวกับผมอยู่แล้ว”
เซี่ยชิงหยวนคุ้นเคยกับรูปแบบการพูดของเฮ่ออวี้เฟิง
เธอพยักหน้าและพูดว่า “ไม่ว่ายังไง ก่อนที่ฉันจะกลับไปคราวนี้ ฉันจะเลี้ยงอาหารคุณ เพราะงั้นได้โปรดอย่าบ่ายเบี่ยงเลยนะ”
เฮ่ออวี้เฟิงไม่ปฏิเสธในเรื่องนี้อีกต่อไปและพยักหน้า “ตกลง”
หลังจากพูดจบ เขาก็เข็นรถสามล้อออกจากร้าน “ผมจะพาคุณกลับโรงแรม คืนนี้อย่าออกมาข้างนอกล่ะ ถ้าพรุ่งนี้จำเป็นจะต้องออกไปไหน ผมจะไปกับคุณอีกครั้ง”
เซี่ยชิงหยวนตอบ “ตกลงค่ะ”
อาเซียงรู้สึกผิด “ฉันขอโทษนะคะ พี่สาวเซี่ย ทั้งหมดเป็นเพราะฉันเอง”
พวกอันธพาลที่เคยเจอในซอยครั้งก่อนหน้าก็เป็นเพราะเธอเช่นกัน ตนทำให้เซี่ยชิงหยวนและตัวเธอเองต้องตกอยู่ในอันตราย
เซี่ยชิงหยวนตบแขนของอาเซียงและปลอบโยน “เด็กโง่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอเลย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก”
อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาแค่โชคร้ายที่ได้พบกับหนิวปิน
หากเป็นคนอื่น อย่างมากก็แค่ยิ้มและกล่าวขอโทษ จากนั้นก็คงไม่มีอะไร
ทันทีที่กลับถึงโรงแรม เซี่ยชิงหยวนก็โทรหาเสิ่นอี้โจวและเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกรำคาญ “คราวนี้ฉันสร้างปัญหาให้เขาอีกแล้ว และฉันรู้สึกผิดจริง ๆ ไม่รู้ว่าเมื่อฉันกลับไป คนพวกนั้นจะสร้างปัญหาให้เขามากขนาดไหน”
เสิ่นอี้โจวปลอบโยน “เรื่องนี้คุณไม่ได้ผิดอะไร คุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอก คนอย่างหนิวปินถ้าไม่รังแกคุณวันนี้ มันก็จะทำกับคนอื่นอยู่ดี ดังนั้นเราควรประณามคนที่ทำชั่วไม่ใช่คุณที่เป็นเหยื่อสิ”
เซี่ยชิงหยวนฟังเขาและเห็นด้วย
เสิ่นอี้โจวเป็นคนฉลาด ใจกว้าง และเคารพผู้หญิง
เขาไม่เคยเชื่อในทฤษฎีของความผิด และไม่เคยถือว่าศีลธรรมอยู่เหนือกฎหมาย
เขากล่าวว่า “คุณกลับไปอาบน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอเถอะ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง”
แม้จะด้วยประโยคธรรมดาและน้ำเสียงอันอ่อนโยน แต่เซี่ยชิงหยวนกลับรู้สึกเต็มไปด้วยความปลอดภัย
เธอตอบว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
ขณะเดียวกันหลังจากวางสาย เสิ่นอี้โจวก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ต่อสายโทรข้ามมณฑล