กระบี่จงมา 965.2 พบนักพรตอีกครั้ง

ตอนที่ 965.2 พบนักพรตอีกครั้ง

บท ที่ 965.2 พบ นักพรต อีก ครั้ง 

เฉิ น ผิงอัน ส่าย หน้า “ ไม่ใช่ ก็ แค่ เป็น ภาพ ใน ใจ บาง อย่าง ที่ “ ผลลัพธ์ มอง ดู แล้ว เป็น เช่น นั้น ” ภูเขา ลั่ ว ตั่ ว ก็ คือ ภูเขา ลั่ ว ตั่ ว สํานัก กระบี่ ชิง ผิง ก็ คือ สํานัก กระบี่ ชิง ผิง รากฐาน ใน การ หยัด ยืน ก็ คือ ผู้ ฝึก กระบี่ แล้ว ก็ มีได้แค่ ผู้ ฝึกกระบี่ เท่านั้น ” 

ชุด : 

“ สํานัก กระบี่ ชิง ผิง ต้องการ ให้ ภาย ใต้ เงื่อนไข ที่ รับประกัน ว่า จะ ไม่ 

มี ภัยแฝง บน มหา มรรคา ไฉ อู่ ที่ ทุกวันนี้ เป็น ผู้ ฝึก กระบี่ แล้ว ยิ่ง ฝ่า ทะลุ ขอบเขต เร็ว เท่าไร ก็ ยิ่ง ดี มาก เท่านั้น แล้ว ก็ ต้อง ให้ เด็ก ๆ ที่มา จาก 

เรียน ซุน ชุน หวัง ฝืน ดึงกําลัง 

ใจ เฮือก หนึ่ง ขึ้น มา ได้ รู้ แล้ว ว่าความ ต่าง ระหว่าง พวก เขา กับ ผู้ มี พรสวรรค์ ที่ แท้จริง นั้น อยู่ ตรง ไหน มี มาก น้อย เท่าไร ผู้ ฝึกกระบี่ จะ มี ป ม อยู่ บ่ม หนึ่ง ก็ คือ บางที อาจ ไม่ กลัว ตาย แต่ กลับ กลัว แพ้ ” 

พรสวรรค์ ที่ แท้จริง นั้น อยู่ ตรง 

“ ข้า จึง อยาก จะ เห็น ว่า เมื่อ พวก เขา สัมผัส ได้ แล้ว ว่า จะ ต้อง แพ้ 

ไฉ อู่ อย่าง แน่นอน 

ถึง ขั้น ที่ ว่า ชีวิต นี้ จะ ไม่มี ทาง ไล่ ตาม ไฉ อู่ ได้ ทัน 

จิต แห่ง มรรคา ของพวก เขา แต่ละคน จะ เป็น อย่างไร ” 

“ นอกจาก นี้ หาก แม่ นางน้อย อย่าง ไฉ อู่ได้ ครอบครอง ถ้ํา สวรรค์ ฉาง ชุน เพียง คน เดียว จาก นั้น นาง ฝ่า ทะลุ ขอบเขต ไป อย่าง ว่องไว 

อันดับแรก ก็ เป็น ขอบเขต หยก ดิบ ก่อน ต่อ มา จึง เป็น เซียน เห ริน หรือ ถึง ขั้น เป็น บิน ทะยาน ได้ ใน อนาคต ก็ เป็น ไป ได้ ที่ ยิ่ง นาน ก็ จะ ยิ่ง ปลีกตัว 

 

สันโดษ ไม่ เข้าพวก ต่อให้ พวก ป้ายเสวียน จะ ใจกว้าง แค่ ไหน แต่ หาก ไม่ ได้พบ กัน แค่ ไม่ กี่ วัน แล้ว จู่ๆ ก็ได้ เจอ ไฉ อู่ ที่ เป็น ห้า ขอบเขต บน แล้ว บางที ผ่าน ไป อีก แค่ ไม่ กี่ ปี ก็ได้ เห็น ไฉ อู๋ ที่ เป็น ขอบเขต เซียน เหริน ซึ่ง ยิ่ง 

เหมือน คน แปลก หน้า มากกว่า เดิม พวก เขา ต่าง ก็ อายุ ยัง น้อย 

คุณสมบัติ ดี เกินไป ดังนั้น ข้า กังวล ว่า วัน หน้า ยิ่ง นาน วัน ไฉ อู๋ ก็ จะ ยิ่ง ดื่ม เหล้า เพียง ลําพัง มาก ขึ้น เรื่อย ๆ ต่อ ให้อยู่ ด้วย กัน ก็ ไม่มี เรื่อง ให้ พูด คุย กัน ได้ อีก แล้ว นาน วัน เข้า ก็ จะ เหมือน สหาย ใน อดีต ที่ยิ่ง เดิน ก็ ยิ่ง ค่อยๆ ห่าง กัน ไป ระยะ ห่าง บน เส้นทาง หัวใจ ประเภท นี้ ไม่ใช่ ว่า แค่ หา โอกาส 

พูด คุย ตีสนิท สัก สอง สาม ประโยค ก็ จะ สามารถ ชดเชย ได้ มี 

ได้ เลย ” 

ซุย ต ง ซาน พยัก หน้า “ อาจารย์ พูด ถูก แล้ว การ ฝึกฝน จิตใจ ก็ คือ การ ฝึก ตน ที่ ยาวนาน ครั้ง หนึ่ง ผู้ ฝึก กระบี่ มี เพียง จิต แห่ง มรรคา ที่ ใส กระจ่าง จิต แห่ง กระบี่ บริสุทธิ์ เท่านั้น ที่ ถึง จะ มี ความ เป็น ไป ได้ นับพัน นับ หมื่น ” 

เฉิ น ผิง อัน หัน มา มอง ขุยต ง ซาน 

ชุ ย ต ง ซาน มึนงง “ อาจารย์ นี่ เป็น คําพูด จาก ใจ จริง นะ ข้า ไม่ใช่ เทพ เขียน ผู้ เฒ่า เจีย เสีย หน่อย ไม่ เคยพูด ประจบ เอาใจ ใคร หรอกนะ ! ” 

เฉิ น ผิงอัน เอ่ย เตือน “ พอ เกี่ยวพัน ถึง เรื่อง เงิน ก็ แกล้ง โง่ เลย ใช่ไหม จงใจ พูดจา ว กวน ยึด ยาว เงิน ฝน ธัญพืช ที่ อยู่ บนหน้า บัญชี ของ สํานัก กระบี่ ชิง ผิง ใน ทุกวันนี้ มี เท่าไร แล้ว ? วัน หน้า ประคับประคอง ปราณ วิญญาณ ฟ้า ดิน ของ ถ้ํา สวรรค์ ฉาง ชุน ก็ แค่ ทุ่ม เงิน ไป ก็ พอ จํา ไว้ ว่า 

 

อย่า มา ร่ํา ร้อง กับ ข้า ว่า ยากจน เจ้า คิด ว่า ข้า ไม่รู้ หรือ ว่า เผย เฉี ย น เอา วัตถุ จื่อ ชื่อ มอบ ให้ เจ้า ไป แล้ว ? ” 

ชุ ย ต ง ซาน ถอน หายใจ อย่าง ปลงอนิจจัง “ อาจารย์ ทํานาย ได้ ล่วงหน้า ฉลาด เฉียบ แหลม ประหนึ่ง มอง กอง ไฟ ใน ถ้ํา ศิษย์ ที่ เป็นเจ้า สํานัก คน แรก ของ สํานัก กระบี่ ชิง ผิง อยู่ ในตําแหน่ง อย่าง กล้า ๆ กลัว ๆ 

จริงๆ ” 

หมี่ ลี่ น้อย กะพริบ ตา ปริบๆ สายตามอง ตรง ไป เบื้องหน้า ไม่ มอง ห่าน ขาว ใหญ่ “ ฮ่า ตัว ชี้ ประจบ ” 

หลังจากนั้น ก็ พา เด็ก กลุ่ม นั้น เข้าไป ใน ถ้ํา สวรรค์ เล็ก ด้วย กัน 

จัดการ หา พื้นที่ ประกอบ พิธีกรรม ชั่วคราว ให้ พวก เขา แต่ละ คน ได้ ฝึก 

ออก มา จาก ใส่ ปุ๋ย ต งซาน ก็ หยิบ เอา จวน ตระกูล เขียน แต่ละ หลัง 

ออก มา จาก ใน ชาย แขน เสื้อสี ขาว หิมะ ให้ พวก มัน หยั่ง ราก ลง บน 

สุดท้าย เฉิ น ผิง อัน ก็ เอ่ย กับ ไฉ อู่ ที่ อยู่ ข้าง กาย ว่า “ ต่อ จากนี้เจ้า สํานัก ฮุ ย จะ รับหน้าที่ เป็น ผู้ ถ่ายทอด มรรคา ให้ เจ้า ชั่วคราว วางใจ เถอะ จะ เป็น แบบ ที่ ไม่มี ฐานะ เป็น อาจารย์ และ ศิษย์ กัน ทาง ฝั่ง เว่ ย เซี่ยน ที่ เป็น อาจารย์ ของ เจ้า ข้า จะ ช่วยบอกกล่าว ไว้ ให้ เขาไม่มี ทาง มี ความ เห็น ต่าง ฝึก ตน อยู่ ที่ นี่ ไป ให้ ดีๆ ยัง คง ใช้กฎ เดิม ดื่ม เหล้าทุก วัน อย่า ให้ เกิน ครึ่ง จิ น เจ้าสํานัก ฮุ ย จะ สร้าง ห้อง เก็บ สุรา ไว้ ใน พื้นที่ 

ประกอบ พิธีกรรม ของ เจ้า โดย เฉพาะ ” 

 

ไฉ อู๋ กลุ้มใจ อย่าง ถึง ที่สุด เอ่ย อย่าง ขลาด ๆ ว่า “ เจ้า ขุนเขา เฉิน วัน หน้า เหล้า ของ ข้า สามารถ หัก ออก ครึ่ง หนึ่ง ได้ เปลี่ยนจาก สอง ชาม มาเป็น หนึ่ง ชาม ทุก วัน ข้า ดื่มเหล้า แค่ สอง ตําลึง ก็พอ ” 

เพราะ แม่นาง น้อย คิด ว่า ตัว เอง ฟัง เข้าใจ แล้ว เจ้าขุนเขา เฉิ น กําลัง บอก กับ ตน เป็น นัย ๆ ว่า คุณสมบัติ ด้าน การ ฝึก ตน ไม่ ดี แล้ว ยัง เป็น ผี ขึ้ เหล้า ตัว น้อย อีก ก็ แค่ตัว ขาดทุนที่ ดี แต่ ใช้ เงิน ไม่ รู้จัก หาเงิน ไม่ใช่ หรือ ? 

เฉิ น ผิง อัน อึ้ง ตะลึง โบกมือ ยิ้ม เอ่ย “ ไม่ ต้อง ๆ ทุก วัน ดื่ม เหล้า สอง ชาม ไม่ ได้ เป็น ปัญหา อะไร ” 

ไฉ อู่ อัดอั้น ไม่ พูด ไม่ จา 

el 

เฉิ น ผิง อัน ถาม “ ไฉ อู๋ เจ้า รู้ หรือ ไม่ ว่า คุณสมบัติ การ ฝึก ตน ของ เจ้า รู้ หรือ ไม่ ว่า คุณสมบัติ การ ฝึก ตน ของ ตัว เอง ดี มาก ๆ เลย ? ” 

ไฉ อู๋ เอ่ย ด้วย น้ําเสียง กลัดกลุ้ม “ อาจารย์ เคย บอก ว่าคุณสมบัติ ใน 

การ ฝึก ตนของ ข้า เหมือนความ สามารถ ใน การ ดื่ม เหล้า ของ เขา ” 

ชุ ยต ง ซาน กุม ท้อง หัวเราะ ก๊า ก เว่ ย คอแข็ง ผู้ นี้ น้ําเข้าสมองแล้ว จริงๆ ถึง ได้ พูดจา เหลว ไหล เช่น นี้ ให้ ไฉ อู่ ฟัง 

เฉิ น ผิง อัน กล่าว อย่างอ่อนใจ “ ดี มาก จริงๆ ข้า ไม่ ได้ ล้อ เล่น ไฉ อู๋ เงย หน้า ขึ้น มอง เจ้า ขุนเขา เฉิ น แวบ หนึ่ง ก่อน จะ ก้มหน้า ลง ต่ํา 

อื ม รับ หนึ่ง ที 

 

นี่ ต้อง เป็นคุณสมบัติ ด้าน การ ฝึก ตน ที่ ย่ําแย่ ถึง เพียง ใด ถึง ได้ ทํา 

ให้ เจ้าขุนเขา เฉิ น ที่ นิสัย ดี ขนาดนี้เริ่ม รู้สึก ร้อน ใจ บ้างแล้ว 

เฉิ น ผิง อัน นวด คลึง หว่าง คิ้ว เขา ปวด หัว แล้ว จริงๆ ช่าง เถิด ให้ชุ ย ต งซานปวด หัว ไปเอง ก็ แล้วกัน ตน ไม่ อาจ ไป ดูแล เรื่อง การ ฝึก ตน ของ แม่ นาง น้อยคน นี้ ได้ เลย จริงๆ มิ อาจ สอน ได้ 

เลย 

confi 

ก่อน หน้า นี้ ตอน อยู่ บน เรือ ข้าม ฟาก เฟิ งยวน แรก เริ่มเฉิ น ผิง อันยัง 

รู้สึก ว่า ต้อง สอน แม่ นาง น้อย ที่ เพิ่งเดิน ขึ้น สู่ เส้นทาง ของ การ ฝึก ตน ผู้ นี้ บ้าง จะ มี อะไร ยาก แต่ รอกระทั่ง ต้อง ชน กําแพง ถึง สอง ครั้ง เขา ก็ ยอมรับ ชะตา กรรม อย่าง สิ้นเชิง แล้ว 

เมื่อก่อน สอน หมัด ให้ เผย เฉี ย น บน ชั้น สอง ของ เรือน ไม้ไผ่ จากนั้น อุตส่าห์ โน้มน้าว ให้ ตัว เอง ห้าวหาญ ได้ อย่าง ไม่ง่าย คิด จะ เป็น ผู้ ถ่ายทอด มรรคา ให้ กับ ไฉ อู่ ชั่วคราว ผล คือ กับ เฉา ฉิ ง ห ล่าง ผู้ เป็น ลูก ศิษย์ ก็ ดัน มี เรื่อง กระบี่ บิน “ หนี วาน ” เม็ด นั้นอีก … 

หลังจากจัดการ เรื่อง ของ ไฉ อู่ ได้ อย่าง เหมาะสม แล้ว เฉิ น ผิง อัน ก็ เดินไป ยัง จุด ที่ สูง ที่สุด ของ ถ้ํา สวรรค์ ถาม ว่า “ ต ง ซาน ลูกศิษย์ ใหญ่ ของ เจ้า มี ตัว เลือก ไว้ แล้ว ใช่ไหม ? ” 

ซุย ต ง ซานกลอก ตา ไป มา เร็ว จี๋ 

 

เฉิ นผิง อัน กล่าว “ ข้า ได้ยิน หลิน โส่ ว อี เล่า ว่า ก่อน หน้า นี้ตอน ที่ อยู่ ใกล้ กับ ลําน้ํา ใหญ่ ข้าง กาย เจ้า มี เด็ก หนุ่ม ท่าทาง ซื่อๆ คน หนึ่ง ติดตาม มา ด้วย ถูก เจ้า เรียก ขาน ว่า “ น้อง เกา ? ” 

ชุ ย ต ง ซาน กระทืบเท้า หนึ่ง ที ยกชาย แขน เสื้อ ขึ้น สะบัด อย่าง แรง 

เด็ก หนุ่มหน้าตา ทื่ ม ที่ อ ฟัน ขาว ปาก แดง คน หนึ่ง ก็ กระเด็น ออก มา จาก 

ชาย เสื้อ ของ เขา 

ซุย ต ง ซาน ตี หน้า เคร่ง เอ่ย สั่งสอน ว่า “ เกา ตี มัว ยืน อึ้ง อยู่ ทําไม รีบ 

เรียก อาจารย์ ปู่ เร็ว เข้า !” 

เด็ก หนุ่ม ที่ ถูกซุย ต ง ซาน ตั้งชื่อ ให้ ว่า “ เกา ตี ” เรียก ขาน ว่า 

อาจารย์ ปู่ ด้วย สีหน้า ขลาด กลัว 

ไป 

เฉิน ผิง อันอับจน คํา พูด พา เสี่ยว โม่ และ หมี่ ลี่ น้อยเดิน ลง จาก ภูเขา 

ซุย ต ง ซานพา เกา ดี เด็ก หนุ่ม ที่ มี ชื่อเล่น ว่า “ ปู้ เฉิ ง ” ไล่ ตาม ฝีเท้า 

ของอาจารย์ ไป ใช้ เสียง ใน ใจ ถามว่า “ อาจารย์ ใบ ถ ง ทวีป ใน วัน หน้า เรื่อง ของ การ เช่น กระบี่ ? ” 

เฉิ น ผิงอัน กล่าว “ เจ้า ต่างหากจึง จะ เป็น เจ้า สํานัก ของ สํานัก กระบี่ ชิง ผิง เจ้า ตัดสินใจ เอา เองได้ เลย ” 

หรือ ? ” 

ซุย ต ง ซาน ร้อง อ้อหนึ่ง ที ถาม ว่า “ อาจารย์ จะ กลับ ภูเขา ลั่ ว มั่ว แล้ว 

 

กลับ ” 

เฉิ น ผิงอัน ตอบ “ ไป จุด ธูป ที่ ศาล เทพ แห่ง ผืน ดิน ก่อน แล้ว ค่อย 

ซุย ต งซาน กล่าว อย่าง กระจ่างแจ้ง “ ที่ ต่า ว เช่ อ นั่น น่ะ หรือ ศาล ไม่ ใหญ่ แต่ ประวัติ ความ เป็น มา ยาวนาน อยู่ มาพันกว่า ปี แล้ว ค วัน ธูป ก็ ยัง ไม่เคย ขาด หาย ล่าง ภูเขา ถือว่า หา ได้ยาก มาก แล้ว ข้า ไป กับ อาจารย์ด้วย ก็ แล้วกัน ” 

คนทั้ง กลุ่ม ไป จุด ธูป คารวะ ที่ ต่า ว เซ่อ ด้วย กัน ศาล ของเทพ แห่ง ผืน ดิน แห่ง นี้ เล็ก มาก คน เฝ้า ศาล ก็ เป็น แค่ ชาว บ้าน ธรรมดา ทั่วไป เฉิ น ผิง อัน ยัง เชิญ เทียน หอม ด้วย คู่ หนึ่ง 

ออก มา จากต่า ว เซ่อ 

เปิด ขุนเขา – หมี่ ลี่ น้อย และลูกศิษย์ ใหญ่ 

เฉิ น ผิง อัน ไม่ ได้ รีบ ร้อน กลับ ไป ทาง ทิศ เหนือ เพียง แค่ พา เสี่ยว โม่ 

เดิน เล่น ไป ด้วย กัน บริเวณ ใกล้ เคียง กับ ศาลเทพ แห่ง ผืน ดิน มี ต้น พลับ 

เยอะ มาก ห่าง ไป ไกล อีก เล็กน้อย ก็ มี กอ ต้น อ้อ ต้น กก เป็น ผืน กว้าง ใหญ่ 

* สี ขาว บิน ผ่าน เหมือน กล่าว คํา โน้มน้าว โน้มน้าว ว่า 

ให้ หยุด อยู่ ก่อน หยุด อยู่ ก่อน คิด ดู แล้ว เมื่อ เข้า สู่ ช่วง ฤดู ใบไม้ ร่วง ของ ปีนี้ ต้น พลับคง เป็น สี แดง เต็ม ต้น เหมือน มี แสง สายัณห์ ปู แผ่ เต็ม ผืน น้ํา คือ ภาพวาด อัน งดงาม ประหนึ่ง เขียน น้ํา สวม ชุด สี แดง อ่อน กระมัง 

เสี่ยว โม่ ถาม อย่างใคร่ รู้ “ คุณชาย ทําไม ถึง ได้ รีบ ร้อน กลับ ไป ที่ ภูเขา ลั่ ว พัว ล่ะ ? ” 

 

“ ไป รับรอง แขก” 

เฉิ น ผิงอัน มี สีหน้า ปั้น ยาก “ มี แขก ที่ มา เยือน จาก ทิศ ไกล ” 

เสี่ยว โม่ ยิ้ม กล่าว “ ผู้ที่ มา มี เจตนา ไม่ ดี ? ” 

เฉิ น ผิง อัน ส่าย หน้า “ ก็ ไม่ ถึง ขั้น นั้น อีก ฝ่าย ต้อง เคารพกฎ มิ เช่น นั้น ราคา ที่ ต้อง จ่าย ย่อม มหาศาล ” 

เสี่ยว โม่ ถาม “ คือผู้ ฝึก ตน ขอบเขต สิบ สี่หรือ ว่า ผู้ ฝึก กระบี่ ขอบเขต บิน ทะยาน ? ” 

แล้ว ” 

เฉิน ผิง อัน ต บ ไหล่ เสี่ยว โม่ พูด ด้วย สีหน้า จริงจัง ว่า “ ลําบาก เจ้า 

เสี่ยวโม่ มึนงง สงสัย เริ่ม ครุ่นคิด แล้ว ว่า หาก ต้อง ถาม กระบี่ อย่าง จริงจังจะ ต้อง อยู่ ให้ ห่าง จาก ภูเขา ลั่ ว มั่ว ทาง ที่ ดี ที่สุด ควร อยู่ ห่าง จาก บน บก ของ แจกัน สมบัติ ทวีป ไปบน ทะเล แทน 

เหล่า ปีศาจ ทั้งหลาย ที่ รวมป้าย จิ่ง เป็น หนึ่ง ใน นั้น นัดหมาย กัน ว่า 

จะ มา “ เข้า พบ ” นาย ท่าน ป้าย เจ๋อ ที่ ได้หวนกลับคืน มายัง เปลี่ยว ร้าง อีก ครั้ง ใน อาณาเขต ของ ลําคลอง เย่ ลั่ ว 

ผล คือ ก่อ กบฏ ไม่ สําเร็จ ยัง ถูก ป้าย เจ๋อพูดเหน็บแนม แน่นอน ว่า นี่ ก็ มี ความ เกี่ยวข้อง กับ การ ที่ ป้าย จิ่ง หักหลัง ทุก คน อยู่ …. ไม่ น้อย แต่ ก็ ไม่ ได้ มากมาย อะไร 

 

หาก ป้าย เจ๋อ อยาก จะ จัดการปีศาจ ใหญ่ ดุร้าย ที่พยศ ยาก กําราบ อย่าง ถึง ที่สุด ของ ยุค บรรพ กาล อย่าง พวก เขา อัน ที่ จริง ไม่ได้ มี ความ เกี่ยวข้อง มาก นัก ว่า จํานวน ของ ฝ่าย ตรง ข้าม จะ มาก หรือ น้อย 

ก่อน หน้า นี้ ป๋า ย เจ๋อ ได้ ออก คํา สั่ง ให้เหล่า ผู้ ที่จําศีล ซึ่ง กระจาย ตัว อยู่ ตาม สถาน ที่ ต่างๆ เหล่า นี้ ฟื้น ตื่นกันให้ หมด ป้าย จิ่ง ที่ มี รูป โฉม เป็น “ เด็ก สาว ” ทุกวันนี้ นาง ตั้ง ชื่อ ให้ ตัว เอง ว่า เขี่ย โก่ ว แล้ว ถึง อย่างไร ก็ เป็น สตรี คน หนึ่ง เรื่อง ของ การ ตั้ง ชื่อ ใหม่ และ เปลี่ยนฉายา จึง เหมือน การ เปลี่ยน เสื้อผ้า 

เยน ฉาย 

รวม ถึง เสี่ยวโม่ ที่ เดิมที พัก รักษา อาการ บาดเจ็บ อยู่ ใน ดวง จันทร์ เฮ่า ไข่ ซึ่ง ไม่รู้ ว่า ไป อยู่ ใต้ หล้าไพศาล ได้ อย่างไร แล้ว 

นาง กับ เสี่ยว โม่ คน ทั้ง สอง ต่าง ก็ เป็น ผู้ ฝึก กระบี่ ขอบเขต บิน ทะยาน คน หนึ่ง อยู่ บนยอด เขา สูงสุด อีก คน หนึ่งอยู่ ในขั้นสมบูรณ์ แบบ อัน ที่ จริง ทั้ง สอง ฝ่าย ห่าง ชั้นกัน แค่ ครึ่ง ก้าว เท่านั้น 

เคน หนึ่ง / ขอบเขต บิน 

ชา ซีด ขาว ริมฝีปาก 

นอกจาก นี้ ยัง มี หญิง สาว งามสะคราญที่ ใบ หน้าซีด ขาว ริมฝีปาก แดง ก่ํา คน หนึ่ง ด้วย นาง สวม ชุด บางเบา เรือน กาย อวบ อิ่ม เพียง แต่มี สี หน้า เย็น ชา ปฏิเสธ คน ให้ อยู่ ห่าง ไกล เป็น พัน ลี้ 

ทุกวันนี้ ใช้ นามแฝง ว่า ก วาน อี๋ ฉายา ว่า “ เซ วี่ ย ฉาง 

ก่อน หน้า นี้ นาง ตื่น ขึ้น มา ท่ามกลาง ธาร น้ําแข็ง หมื่น ปี แล้ว ก็ได้ 

สังหารสิ่ง มี ชีวิต ทั้งหมด ที่ อยู่ ใน นคร ขนาด ยักษ์ ใกล้ เคียง จน สิ้น ซาก 

ใน บรรดา นั้น มี เผ่า ปีศาจ ห้า ขอบเขต บน คน หนึ่ง และ ผู้ ฝึก ตน เซียน ดิน 

 

อีกหลาย คน เมื่อ เจอ กับ ปีศาจ ใหญ่ บรรพ กาล ที่ศักยภาพ สามารถ เลื่อน ขึ้น เป็นบัลลังก์ ราชา ของ เปลี่ยว ร้าง ได้ โดยตรง ผู้ นี้ พวกเขา ไม่มี เรี่ยวแรง ให้ ต่อสู้ เลย แม้แต่ น้อย ถึง ขั้น ที่ ว่า ยัง ไม่ทัน เห็น โฉมหน้า ของ นาง อย่าง ชัดเจน ก็ กาย ดับ มรรคา สลาย ไปก่อน แล้ว แก่น วิญญาณ 

ของ ผู้ ฝึก ตน แม้ กระทั่ง จิต วิญญาณ และ เลือด สด ทั้ง ร่างล้วน กลาย เป็น อาหาร ของ ก วาน อู่ ไป ทั้งหมด 

อีก ทั้ง ระหว่าง ที่ นาง เดินทางมา ก็ได้ หา แคว้น เล็ก แห่ง หนึ่ง เอา มา 

กิน เป็น อาหาร จน อิ่ม หน้า ไป อีก หนึ่ง มื้อ 

จาก นั้น อีก ฝ่าย ก็ พลัน ยื่นมือ มา ลูบ ตรง หน้าอก ก วาน ปัด ฝ่ามือ ของ อีก ฝ่าย ทิ้ง เบา ๆ 

ก วาน อี๋ สังเกต เห็น ขยับ เข้า มา ใกล้ ตัว เอง ที ละ นิด 

เด็ก สาว ที่ สวม หมวก ขน เตียว ถอน หายใจ “ คง เหนื่อยมาก สินะ จริงๆ นะ ก วาน อี่ เจ้า น่า จะ ฟัง คํา แนะนํา จาก ข้า สัก คํา นี่ เป็น อุปสรรค ต่อการ ต่อสู้ เล็ก หน่อย น่ะ ดีแล้ว ไม่ อย่าง นั้น เวลา ต่อสู้ ก็ จะ สะบัด แกว่ง ไป เรื่อย ไป น่า มอง เท่าไร ” 

ก วาน อี่ เพียง คลี่ ยิ้ม ไม่ เอ่ย อะไร 

ตลอดทาง ที่ เดินทาง มา ร่วม กัน นี้ นาง เคยชินเสียแล้ว 

ผู้ ที่ ยืน อยู่ ข้าง กาย ก วาน อี๋ ก็ คือ ผู้ ฝึก ตน หนุ่ม คน หนึ่ง ที่ ยิ้ม ตาหยี 

ใช้ นามแฝง ว่า หู ถู 

 

หลังจาก ถูกป้าย เจ๋อ สั่ง ให้ ตื่นขึ้นมา ภูเขา ที่ ถือว่าเป็น สาย ของ เขา มี ค วัน ธูป ขาด ๆ หาย ๆ กว่า จะ ประคับประคอง สํานัก อักษร จง ของ สาย ตัว เอง ขึ้น มา ได้ ไม่ใช่ เรื่อง ง่าย ผล คือ ดัน มา เจอ กับ บรรพ จาร ย์ บุกเบิก ภูเขา ที่เสีย สติ รอ กระทั่ง เขา เดิน ออก มา จากภาพขุนเขา สายน้ํา ที่ วาด 

เป็น สนามรบ โบราณ ภาพ นั้น สาย เต๋า ของ บ้าน ตน และ สํานัก แห่ง หนึ่ง 

ไม่ กี่คน เท่านั้น คน อื่น ๆ ที่ เหลือ ล้วน ถูก เขา สังหาร ทิ้ง หมด ตลอด ทั้ง 

สุดท้าย ก็ เหลือ แค่ ผู้ ของ สาร ทิ้ง ห , ใช้ได้ แค่ 

ศาล บรรพ จาร ย์ ทุกวันนี้ นอกจากบรรพ จาร เขา ก็ ไม่ เหลือใคร 

อีก แม้แต่คน เดียว เจ้าของ เก้าอี้ สิบ กว่า ตัว เนื่องจาก “ จุดธูป คารวะ 

ผิด ๆ หมด แล้ว 

ลาย มา เป็น อาหาร ใน ท้องของ บรรพ จาร ย์ 

เด็ก หนุ่ม คน หนึ่ง ที่ มี ดวงตา ดํา ซ้อนกัน ใช้ นามแฝง ว่า “ หลี โก้ ว ” 

ฉายา “ เฟ ย เฉี ย น ” 

เขา เก็บ สมบัติ หนัก บน ภูเขา ซึ่ง มี ระดับ ขั้น เป็น อาวุธ เซียน คืน มา 

รวดเดียว ถึง แปด ชิ้น 

ต้อง รู้ ว่า อาวุธ เขียน ที่ ใน อดีต พลัด หล่น ไป อยู่ ตาม สถาน ที่ ต่างๆ ของ เปลี่ยว ร้างพวก นี้ ตลอด หมื่น ปี ที่ ผ่าน มา ต่างก็ ถูก บรรพ จาร ย์ ของ 

สํานัก แต่ละแห่ง และ ผู้ ฝึก ตน อิสระ ห้า ขอบเขต บน ทั้งหลาย เอา มา หลอม ใหญ่เป็น วัตถุ แห่ง ชะตา ชีวิต ไป หมด แล้ว 

นี่ จึงเป็น เหตุ ให้ พอ “ เด็ก หนุ่ม ” คน นี้ เผย กาย บน โลก อาวุธ เขียน ทุก ชิ้น ล้วน กลับคืน สู่ เจ้าของ เดิม พริบตาเดียว ก็ เท่ากับ ว่า สร้าง 

 

อาการ บาดเจ็บ สาหัส ให้ กับ เผ่า ปีศาจ เปลี่ยว ร้าง ห้า ขอบเขต บน ถึง 

เจ็ด ท่าน 

บวก กับ เขียน ดิน หนุ่ม อีกคน หนึ่ง ที่ พอ จะ มี ชื่อเสียง อยู่ ใน ใต้ 

หล้า เปลี่ยว ร้าง อยู่ บ้าง ถูก มอง ว่าเป็น ผู้ มี พรสวรรค์ ด้าน การ ฝึกตน ที่ มี 

ความ หวัง บน มหา มรรคา เพียง แต่ เพราะ มิ อาจ ทน รับ การ บังคับ ดึง เอา 

วัตถุ แห่ง ชะตา ชีวิต ไป ได้ เรียก ได้ ว่า เจอ กับ หายนะ ที่ ไม่ คาด ฝัน คือ ภัย พิบัติ ที่ มา เยือนโดย ไม่มี เค้า ลาง ขอบเขต จึง ถดถอย เยอะมาก ถูก – 

กําหนด มา แล้ว ว่า ชีวิต นี้ จะ ไม่มี หวังด้าน การ ฝึกตน อีก 

บ 

ปีศาจ ใหญ่ บรรพ กาล ที่ มี รูป โฉมเป็น เด็ก หนุ่ม ผู้ นี้ ตรง เอว ห้อย ถุง จักรวาล สี เหลือง หนึ่ง ใบ และ น้ําเต้า จับ ปีศาจ หนึ่ง ลูก 

ตะวัน จันทรา ขัด กลึง พัน กาล จักรวาล กว้างใหญ่ ลึกล้ํา เคย หลอม 

ผู้ ฝึก ตนเผ่า มนุษย์ ขอบเขต บินทะยาน สอง คน 

อีก คน หนึ่ง คือ นักพรตที่ สวม ก วาน ไม้ไผ่ สะพาย กระบี่ ขี่ กวาง นามแฝง คือ หวา จี ถึง กับ เป็น “ หวัง โย ว อู๋ ” ผู้ นั้น ฉายา ก็ ไม่ ธรรมดา มี 

ฉายา ว่า “ ซาน จ วิน 

ยัง มี หลุด วิน 

มี 

และ ยัง มี หญิงชรา คน หนึ่ง ที่ มี เมฆ หมอก บดบัง เรือน กาย ง อ งุ้ม รวบรวม เอา ปราณ วิญญาณ ที่ ฟ้า ดิน สร้าง ไว้ มา ตลอดเวลา เมื่อ ผู้ ฝึก ตน ใหญ่ เพ่ง มองอย่าง ละเอียด หญิง ชรา ร่างเล็ก เตี้ย กลับ มี ภาพ บรรยากาศ ยิ่ง ใหญ่ โอฬารเหมือน มหา บรรพต และ ยัง มี สายฟ้า สี ทอง 

อีก นับ ไม่ ถ้วน แผ่ เต็ม ภูเขา ภูเขา แบ่ง ออก เป็น ห้า สี 

 

และ ยัง มี ชาย ฉกรรจ์ ร่าง เล็ก เตี้ย แต่ แข็งแกร่ง กํายํา อีก คนหนึ่ง ที่ ดู 

เหมือน ว่า จะ ยัง ไม่ ตื่น ดี อ้า ปาก หาวอยู่ ตลอดเวลา 

 

กระบี่จงมา

กระบี่จงมา

Score 10
Status: Completed

อ่านนิยาย กระบี่จงมา 1 – 400 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


” หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความลี้ลับมหัศจรรย์  ใจกลางฟ้าดิน เคยมีปัญญาชนผู้หนึ่งใช้หนึ่งกระบี่ฟาดฟันให้เกิดน้ำตกธารสวรรค์ คือความภาคภูมิใจสูงสุดของโลกมนุษย์  หน้าผาทะเลบูรพา มีนักพรตไร้นามผู้หนึ่งที่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด หวังเพียงให้ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า  แดนสุขาวดีปัจฉิมทิศ มีหลวงจีนเฒ่าที่ชอบเล่าเรื่องราวให้ผู้คนฟัง เลี้ยงมังกรสวรรค์ไว้เก้าตัว พื้นที่กันดารแดนใต้ มีจิตรกรตาบอดควบคุมหุ่นเชิดเกราะทองสูงเท่าเนินเขาให้เคลื่อนย้ายภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูก ปูแผ่เป็นภาพลายปัก
เมื่อวันหนึ่งเด็กหนุ่มยากจนที่เติบโตทางทิศเหนือได้พบกับเซียนที่เหนือศีรษะมีกระบี่บินนับพันนับหมื่นประดุจฝูงตั๊กแตน “

เขาจึงอยากจะไปเห็นปัญญาชนคนนั้น เห็นคลื่นยักษ์ที่โถมตัวเทียมฟ้าของทะเลบูรพา

เห็นทะเลทรายสีเหลืองทองกว้างไกลนับหมื่นลี้ของแดนประจิม

และอยากไปเห็นภูเขาลูกโอฬารของแดนกันดารทางใต้ที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงกับตาตัวเอง

ดังนั้น ในที่สุดวันหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงสะพายกระบี่ไม้พาดหลัง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้

–ข้ามีนามว่าเฉินผิงอัน ผิงอันที่แปลว่าสงบสุข สันติ ข้าคือมือกระบี่คนหนึ่ง–

Options

not work with dark mode
Reset