กระบี่จงมา 870.1 ดอกไม้บานตามลำดับ

ตอนที่ 870.1 ดอกไม้บานตามลำดับ

ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ยืม​ตำรา​หลาย​เล่ม​มาจาก​กอง​โหราศาสตร์​ เขา​ก็​ไม่ได้​กลับ​ไป​ที่​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​หรือ​โรงเตี๊ยม​ แต่​ก้าว​หนึ่ง​ก้าว​ตรง​ดิ่งไป​บน​หัว​กำแพงเมือง​แห่ง​หนึ่ง​ของ​เมืองหลวง​ ได้​เห็น​เรือข้ามฟาก​ลำ​หนึ่ง​ที่​จอด​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ริม​อาณา​เขตชานเมือง​หลวง​ ด้านบน​มีปราณ​มังกร​เข้มข้น​ผิดปกติ​สอง​ขุม​ มังกร​ที่​แท้จริง​จื้อ​กุย​ ซ่งมู่อ๋อง​เจ้าเมือง​ต่าง​ก็​เหมือน​ตะเกียง​ดวง​ใหญ่​สอง​ดวง​ที่​แกว่ง​ส่าย​อยู่​ใน​ลานบ้าน​หลัง​ติดกัน​ของ​ตรอก​หนี​ผิง​กลางดึก​ อยาก​จะมองไม่เห็น​ก็​ยัง​ยาก​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงก้าว​ออก​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ ตรงดิ่ง​ขึ้น​เรือข้ามฟาก​ที่​การป้องกัน​เข้มงวด​ ขณะเดียวกัน​นั้น​ก็​ควัก​เอา​ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​ของ​ผู้​ถวายงาน​ระดับ​สามออกมา​ชูขึ้น​สูง

แม่ทัพ​บู๊​คน​หนึ่ง​ที่​สวม​เสื้อเกราะ​พก​ดาบ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ติดตาม​กองทัพ​หลาย​คน​ของ​เรือข้ามฟาก​ได้​ตี​วงล้อม​เป็น​เหมือน​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​ เห็นได้ชัด​ว่า​การขับไล่​แขก​คือ​หน้าที่​สำคัญ​อันดับ​หนึ่ง​ รอ​กระทั่ง​พวกเขา​ได้​เห็น​ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​ที่​กรม​อาญา​ต้า​หลี​เป็น​ผู้​แจกจ่าย​ถึงได้​ไม่ลงมือ​ในทันที​

แม่ทัพ​บู๊​ถามเสียง​หนัก​ “ผู้​ที่มา​คือ​ใคร​?”

ผู้ฝึก​ตน​ที่อยู่​เบื้องหน้า​สวม​ชุดก​ว้า​ตัว​ยา​วสี​เขียว​ บุคลิก​นิ่ง​สงบ​

มัก​รู้สึก​คุ้นหน้า​คุ้นตา​เหมือนเคย​เห็น​ที่ไหน​มาก่อน​ แต่​นึก​ยังไง​ก็​นึกไม่ออก​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าสีหน้า​มีเมตตา​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ว่า​ “รบกวน​เซียน​ซือ​โปรด​บอกชื่อ​แซ่ด้วย​ ทาง​เรือข้ามฟาก​จำเป็นต้อง​บันทึก​ลง​เอกสาร​”

มือ​ข้าง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​คีบ​ยันต์​สีทอง​แผ่น​หนึ่ง​ไว้​เงียบๆ​ “ส่วน​เซียน​ซือ​ผู้​ถวายงาน​จะอยู่​บน​เรือ​ได้​หรือไม่​ ทาง​เรา​ก็​ยัง​มิกล้า​รับรอง​อะไร​”

ซ่งมู่อ๋อง​เจ้าเมือง​ องค์​ชาย​ซ่งซวี่​ จ้าว​เหยา​รอง​เจ้ากรม​พิธีการ​ ทุกวันนี้​คน​เหล่านี้​ต่าง​ก็​อยู่​บน​เรือ​ ใคร​จะกล้า​ประมาท​

เฉิน​ผิง​อัน​บอกชื่อ​ของ​ตัวเอง​ “เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว”​

แม่ทัพ​บู๊​อึ้ง​ตะลึง​ไป​ก่อน​ จากนั้น​ก็​ทำ​สีหน้า​เข้าใจ​ใน​ฉับพลัน​ ถามว่า​ “คือ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ที่​เกือบจะ​เล่นงาน​ลูก​เต่า​หลาน​ตะพาบ​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ให้​ตาย​น่ะ​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​อึ้ง​ไป​เหมือนกัน​ ก่อน​จะพยัก​หน้ายิ้ม​รับ​ “หาก​ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ก็​น่าจะเป็น​ข้า​แล้ว​”

ภูเขา​ตระกูล​เซียน​ที่​เต็มไปด้วย​มลพิษ​สกปรก​อย่าง​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​แค่​ออก​เงิน​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ แทบ​ไม่เคย​ออกแรง​อย่าง​แท้จริง​มาก่อน​ ยิ่ง​ไม่เคย​ส่งคน​มาช่วย​ นอกจาก​ผู้ฝึก​กระบี่​จำนวน​น้อย​นิด​เพียง​หยิบมือ​ที่​ไป​โผล่​บน​สนามรบ​ของ​นคร​มังกร​เฒ่าแล้ว​ ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​ซึ่งต่าง​ก็​มีความสำคัญ​พวก​นั้น​ก็​แทบ​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​การ​ลง​ภูเขา​ไป​เที่ยวเล่น​ตาม​ขุนเขา​สายน้ำ​เลย​ สรุป​ก็​คือ​ที่ไหน​ปลอดภัย​พวกเขา​ก็​ไป​ที่นั่น​ ทาง​ฝั่งของ​กองทัพ​ต้า​หลี​นี้​ ขอ​แค่​เป็น​แม่ทัพ​บู๊​ที่​เป็น​ผู้นำ​กองทัพ​ทำสงคราม​ล้วน​เห็น​กัน​อย่าง​ชัดเจน​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​ดูแคลน​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​อย่าง​มาก​ ดังนั้น​การ​ร่วม​งานพิธี​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​คราว​นั้น​จึงสาแก่ใจ​พวกเขา​ยิ่งนัก​

ใบหน้า​ของ​แม่ทัพ​บู๊​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ โบกมือ​สลาย​วงล้อม​บน​เรือข้ามฟาก​ ก่อน​จะกุม​หมัด​เอ่ย​ว่า​ “วันนี้​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่ได้​สะพาย​กระบี่​ เมื่อ​ครู่​เกือบจะ​จำไม่ได้​ การปกป้อง​เรือข้ามฟาก​เป็น​หน้าที่​ของ​พวกเรา​ ล่วงเกิน​ท่าน​แล้ว​ เว่ยเจี้ยง​ (แม่ทัพ​ผู้น้อย​/แม่ทัพ​ปลายแถว​ เป็น​คำ​เรียกขาน​อย่าง​ถ่อมตัว​ของ​แม่ทัพ​) จะให้​ลูกน้อง​ไป​รายงาน​ลั่ว​อ๋อง​เดี๋ยวนี้​”

พื้นที่​ศักดินา​ที่​ซ่งมู่ได้รับแต่งตั้ง​ให้​เป็น​อ๋อง​ปกครอง​ก็​คือ​ลั่ว​โจว​ ที่ตั้ง​ของ​แม่น้ำ​ลั่วสุ่ย​โบราณ​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​ต้นกำเนิด​สายน้ำ​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​ใน​ภาค​กลาง​ของ​ยุค​หลัง​

อันที่จริง​เวลา​ปกติ​แม่ทัพ​ผู้​นี้​ก็​คือ​น้ำเต้า​ตัน​คน​หนึ่ง​ คิดไม่ถึง​ว่า​วันนี้​จะยิ้ม​เก่ง​ เป็น​ฝ่าย​เอ่ย​แนะนำ​ตัวเอง​ว่า​ “ข้า​ชื่อ​เลี่ยวจวิ้น​ เคย​เป็น​ลูกน้อง​ใต้​อาณัติ​ของ​แม่ทัพ​ซู เคย​เป็น​พล​ทหารราบ​เดินเท้า​มาก่อน​ เป็น​คนชั้นต่ำ​ เรื่อง​พวก​นี้​ไม่ต้อง​พูดถึง​ดีกว่า​ ข้า​เป็น​สหาย​ของ​กวน​อี้​หรา​น​ น่าเสียดาย​ที่​ปี​นั้น​ตอน​อยู่​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​คลาด​กับ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไป​ ไม่เคย​เจอกัน​มาก่อน​ มักจะ​ได้ยิน​อวี๋​ซาน​ฝางกับ​ชีฉีพูดถึง​เจ้าขุนเขา​เฉิน​เป็นประจำ​ บอ​กว่า​ท่าน​คอแข็ง​ไร้​เทียมทาน​ ดื่ม​สุรา​ด้วยกัน​ สุดท้าย​หาก​จะมีใคร​สัก​คน​ที่นั่ง​อยู่​ได้​ก็​ล้วน​ถือว่า​เป็น​เพราะ​เป็น​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่ได้​ดื่ม​อย่าง​เต็มคราบ​”

อันที่จริง​ก็​เป็นเรื่อง​ประหลาด​เรื่อง​หนึ่ง​ ตาม​หลัก​แล้ว​เมื่อ​ครู่​ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​ขึ้น​เรือ​มา เขา​ไม่ได้​จงใจร่าย​เวท​อำ​พรางตา​ ใน​เมื่อ​เลี่ยวจวิ้น​ผู้​นี้​เคย​ดู​บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ครั้งนั้น​มาก่อน​ ก็​ไม่มีทาง​จำเจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่วคน​นี้​ไม่ได้​แน่นอน​

นี่​ก็​คือ​ผล​จาก​การ​ที่​มีมรรค​กถา​ของ​ลู่​เฉิน​ ตอนนี้​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​ไม่อาจ​ย่อย​ท่วงทำนอง​และ​ปราณ​แห่ง​มรรคา​ทั้งหมด​ได้​ เป็นเหตุให้​เมื่อ​เขา​ท่อง​อยู่​ใน​โลก​มนุษย์​จึงเป็น​ดั่ง​เรือ​ลำ​หนึ่ง​ที่​ไม่ถูก​ผูก​ เรือน​กาย​มนุษย์​และ​ฟ้าดิน​เป็น​ดั่ง​น้ำ​บ่อ​ที่​ไม่ยุ่ง​กับ​น้ำ​คลอง​ เป็นเหตุให้​ใน​เรื่อง​ของ​ ‘รูปโฉม​’ กลายเป็น​ว่า​คนนอก​เห็น​เขา​เหมือน​มอง​ดอกไม้​อยู่​ใน​ดง​หมอก​ รอ​กระทั่ง​เฉิน​ผิง​อัน​บอกชื่อ​ของ​ตัวเอง​และ​ชื่อ​ของ​ภูเขา​ออก​ไป​ คนอื่น​ถึงจะจำเขา​ได้​ใน​ทันทีทันใด​ ไม่อย่างนั้น​ก็​อย่า​หวัง​ว่า​จะเฝ้ารอ​ให้​เมฆเคลื่อนตัว​ออก​จน​มองเห็น​แสงจันทร์​ และ​ก่อนหน้านี้​นาน​กว่า​นั้น​ ตอนที่​มรรคา​จารย์​เต๋า​ขี่​วัว​ไป​เยือน​เมือง​เล็ก​ก็​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​ มรรคา​จารย์​เต๋า​ไม่ต้องการ​ให้​คนอื่น​รู้​ถึงร่องรอย​การ​เดินทาง​ของ​ตัวเอง​ จึงทำให้​ฟ้าไม่รู้​ดิน​ไม่รู้​และ​คน​ก็​ไม่รู้​

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจยิ้ม​เอ่ย​ “ปริมาณ​การ​ดื่มเหล้า​ของ​ข้า​นั้น​ปกติ​ ก็​แค่​ว่า​นิสัย​ยาม​ดื่มเหล้า​นับว่า​พอใช้ได้​ ไม่เหมือน​คน​บางคน​ กระบวนท่า​ลวงตา​มีใช้ไม่หมดสิ้น​ ยก​ถ้วย​ทีไร​มัก​สะบัด​ข้อมือ​เสมอ​ ทุกครั้งที่​ถอย​ออกจาก​โต๊ะ​เหล้า​ ข้าง​ฝ่าเท้า​ก็​สามารถ​เลี้ยง​ปลา​ได้​เลย​”

เลี่ยวจวิ้น​ฟังด้วย​ความ​สาแก่ใจ​ใน​อารมณ์​ หัวเราะ​ดังลั่น​อย่าง​เบิกบาน​ อยู่​กับ​เจ้ากวน​อี้​หรา​น​ ตน​ต้อง​เสียเปรียบ​มาไม่น้อย​ เขา​จึงรวม​เสียง​ให้​เป็น​เส้น​ บอก​ความลับ​แก่​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ที่​พูดจา​มีอารมณ์ขัน​คน​นี้​ “คาด​ว่า​เป็น​เพราะ​กวน​หลา​งจง (ชื่อ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​อย่างหนึ่ง​ และ​สามารถ​เป็น​คำ​เรียก​องค์​รักษ์​ใน​วังหลวง​ได้​อีกด้วย​) ของ​พวกเรา​มีชาติกำเนิด​มาจาก​ตรอก​อี้​ฉือ​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​รังเกียจ​ที่​รสชาติ​ของ​สุรา​ใน​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ย่ำแย่​ ไม่อร่อย​เท่า​ฉี่ม้าที่​ดื่ม​มาจน​ชิน​แล้ว​”

จื้อ​กุย​ที่​สวม​ชุด​คลุม​ยา​วสี​ขาว​หิมะ​ยืน​อยู่​ตรง​ดาดฟ้า​ของ​เรือข้ามฟาก​ หรี่ตา​มอง​มายัง​บุรุษ​ชุด​เขียว​ที่​ก่อนหน้านี้​จากลา​กันที่​ศาล​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​

นาง​หงุดหงิด​นิสัย​เข้ากับ​คน​ได้​ง่าย​ ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​เป็น​อย่าง​ดี​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​อย่าง​มาก​มาโดยตลอด​

ราวกับว่า​ไม่ว่า​กับ​ใคร​เขา​ก็​พูดคุย​ด้วย​ได้​หมด​ ดูเหมือนว่า​ใน​สายตา​ของ​คน​ประเภท​นี้​มักจะ​มองเห็น​เรื่องราว​ที่​ดีงาม​ได้​เสมอ​

หาก​เสแสร้ง​แกล้งทำ​ก็​ยัง​พอทำเนา​ แต่​นี่​เขา​กลับ​ไม่ได้​เป็น​เช่นนั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​เงยหน้า​ใช้เสียง​ใน​ใจยิ้ม​ถาม “ใน​ฐานะ​สุ่ยจ​วิน​ของ​สี่มหาสมุทร​ที่​ได้​เลื่อนขั้น​ใหม่​ ทุกวันนี้​เทพ​วารี​จึงมีหน้าที่​คอย​คุ้มกัน​ทางน้ำ​ เจ้าไม่กลัว​ว่า​ศาล​บุ๋น​จะตำหนิ​เอา​หรือ​? หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ ทุกวันนี้​ระดับ​ขั้น​ของ​องค์​เทพ​บน​ทำเนียบ​ทอง​หยก​ของ​ต้า​หลี​ ไม่ใช่ชามข้าว​เหล็ก​ที่​ฟ้าผ่า​ก็​ไม่สะเทือน​อีกแล้ว​นะ​”

หลังจาก​การประชุม​ของ​ศาล​บุ๋น​ครั้งนั้น​ผ่าน​ไป​ก็​มีมาตรการ​ต่างๆ​ ที่​อาศัย​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​แพร่​ไป​ทั่ว​เก้า​ทวีป​ของ​ไพศาล​

พูดถึง​แค่​การประเมิน​ การ​เลื่อนขั้น​ การ​ลดขั้น​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ ราชวงศ์​ของ​โลก​มนุษย์​ล่าง​ภูเขา​ อำนาจ​ใน​การ​แต่งตั้ง​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ส่วนหนึ่ง​ การ​ส่งมอบ​ทรัพย์สิน​ให้​กับ​ศาล​บุ๋น​ก็​ยิ่ง​เหมือน​หน่วย​การ​ตรวจสอบ​ของ​กรม​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ ทาง​ฝั่งของ​ต้า​หลี​ หยาง​ฮวา​เทพ​วารี​ของ​แม่น้ำ​เถี่ยฝู​เข้าไป​ชดเชย​ตำแหน่ง​ฉางชุน​โหว​ที่ว่าง​อยู่​ชั่วคราว​ ถือ​เป็นการ​โยกย้าย​ไป​รับหน้าที่​ใน​ตำแหน่ง​ที่​ระดับ​เท่ากัน​ ตำแหน่ง​เทพ​ยังคง​เป็น​ระดับ​สาม ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​การ​โยกย้าย​ขุนนาง​เมืองหลวง​ไป​ประจำการ​นอกเมือง​ แต่​ก็​สามารถ​ควบคุม​พื้นที่​แห่ง​หนึ่ง​นอก​เมืองหลวง​ได้​ รับหน้าที่​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​พื้นที่​ศักดินา​ ถือว่า​ได้​รับหน้าที่​ให้​ปฏิบัติงาน​สำคัญ​อย่างหนึ่ง​

เจียว​เฒ่าของ​ถ้ำเฟิงสุ่ย​แม่น้ำ​เฉียน​ถังแจกัน​สมบัติ​ทวีป​เพิ่ง​ไป​รับหน้าที่​เป็น​หลิน​หลี​ป๋อ​เติม​ตำแหน่ง​กง​โหว​สามคน​ของ​ลำน้ำ​ฉีตู๋​ให้​เต็ม​ แน่นอน​ว่า​ถือ​เป็นการ​ได้​เลื่อนขั้น​ เจียว​เฒ่าแห่ง​แคว้น​หวง​ถิงที่​ชื่อจริง​คือ​เฉิงหลง​โจว​เลื่อนขั้น​เป็น​เจ้าขุนเขา​แห่ง​สำนักศึกษา​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ ไป​รับ​ตำแหน่ง​ที่​สำนักศึกษา​ต้าฝู​ของ​ใบ​ถงทวีป​

ต่าง​คน​ต่าง​มีโชควาสนา​

จื้อ​กุย​หัวเราะ​หยัน​ “หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่ได้​รับหน้าที่​ในกรม​พิธีการ​ของ​ต้า​หลี​ หรือว่า​การประชุม​ครั้งนั้น​ ศาล​บุ๋น​ให้รางวัล​ตาม​คุณ​ความชอบ​ก็​เลย​ได้​ตำแหน่ง​สูงอำนาจ​แท้จริง​ที่​คู่ควร​กับ​สถานะ​ใน​สาย​บุ๋น​มาครอง​แล้ว​? ถึงได้​สามารถ​ยุ่ง​วุ่นวาย​กับ​เรื่อง​คนอื่น​ได้​มาก​ขนาด​นี้​แล้ว​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “จะดี​จะชั่ว​ก็​เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ เอ่ย​เตือน​ประโยค​หนึ่ง​ก็​ไม่ถือว่า​ทำ​เกิน​กว่า​เหตุ​ นิสัย​ที่​ไม่อาจ​รับฟัง​คำ​เกลี้ยกล่อม​ด้วย​ความหวังดี​จาก​คนอื่น​ได้​ วันหน้า​ต้อง​ปรับปรุง​บ้าง​แล้ว​”

“ก็​แค่​อ่านหนังสือ​มาหลาย​เล่ม​หน่อย​ นิสัย​ที่​ชอบ​เป็น​อาจารย์​สอน​คนอื่น​ เจ้าก็​ต้อง​เปลี่ยน​บ้าง​แล้ว​ หาก​ถามข้า​ เมื่อก่อน​ตอนที่​เจ้าไม่เคย​อ่าน​ตำรา​ยัง​เป็นที่ชื่นชอบ​ของ​คนอื่น​มากกว่า​”

จื้อ​กุย​ยิ้ม​บาง​ๆ “ยังคง​เป็น​ใน​อดีต​ที่​ดี​ โดน​คน​ด่า​โดน​คน​ตี​ที่​บ่อ​โซ่เหล็ก​ก็​สามารถ​ทำให้​คน​โมโห​ไป​ได้​นาน​หลาย​วัน​”

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​เป็น​ ‘คน​รุ่นเยาว์​’ ของ​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูที่​ขนบธรรมเนียม​บริสุทธิ์​เรียบง่าย​ เพียงแค่​ว่า​กัน​ถึงเรื่อง​คำพูดคำจา​ก็​สามารถ​ถือว่า​อยู่​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​แห่ง​เดียวกัน​ได้​แล้ว​

จื้อ​กุย​หรี่​ดวงตา​สีทอง​คู่​นั้น​ลง​ ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “ขอบเขต​สิบ​สี่? เอา​มาจาก​ไหน​?”

นาง​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​แล้ว​

ใน​ฐานะ​มังกร​ที่​แท้จริง​เพียง​หนึ่งเดียว​บน​โลก​ และ​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​บน​ร่าง​แบกรับ​โชคชะตา​ของ​เจียว​หลง​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ทั่วไป​แล้ว​ ความสามารถ​ใน​การ​มองเห็น​ของ​นาง​ย่อ​มดี​มากกว่า​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ยืม​มาจาก​คนอื่น​ คน​ผู้​นั้น​เจ้าก็​รู้จัก​พอดี​”

จื้อ​กุย​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่เชื่อ​ใน​คำกล่าว​นี้​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

นาง​พลัน​หรี่​ดวงตา​ที่​เรียว​ยาว​คู่​นั้น​ลง​ “นัก​พร​ต.​..ลู่​?!”

นาง​เกือบจะ​หลุด​เรียกชื่อ​อีก​ฝ่าย​ออกมา​ตรงๆ​

ดูเหมือน​นาง​จะจับ​เจอ​จุดอ่อน​จึงใช้นิ้วมือ​เคาะ​ราว​รั้ว​ “จุ๊ๆๆ รู้จัก​เปลี่ยน​ศัตรู​เป็นมิตร​กับ​คู่แค้น​แล้ว​ ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​สตรี​เติบใหญ่​เปลี่ยนแปลง​ได้​สิบ​แปด​แบบ​ แต่​ก็​แค่​รูปโฉม​เท่านั้น​ที่​เปลี่ยนไป​ เจ้าขุนเขา​เฉิน​กลับ​ดี​นัก​ มีการเปลี่ยนแปลง​มาก​ยิ่งกว่า​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ที่​มักจะ​ออก​เดินทางไกล​เป็นประจำ​ บุรุษ​พอ​มีเงิน​ก็​ร้ายกาจ​จริง​เสีย​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ถือสา​ เพียง​ถามว่า​ “เจ้ารู้จัก​อาจารย์​ซาน​ซาน​จิ่ว​โหว​หรือไม่​?”

จื้อ​กุย​ยิ้ม​ตาหยี​ “รู้จัก​แล้ว​อย่างไร​ ไม่รู้จัก​แล้ว​อย่างไร​?”

ฝ่ามือ​ที่​ขาวสะอาด​ราวกับ​หยก​ข้าง​หนึ่ง​ของ​นาง​มีเส้นเลือด​เขียว​ปูด​โปน​ขึ้น​มาบน​หลัง​มือ​ เห็นได้ชัด​ว่า​นาง​เคียดแค้น​อาจารย์​ซาน​ซาน​จิ่ว​โหว​จน​ต้อง​กัดฟัน​กรอด​ ทั้ง​ยัง​กลัว​ลึก​เข้าไป​ถึงกระดูก​

ภูเขา​เจิน​จูคือ​ที่ตั้ง​ของ​ ‘ไข่มุก​’ ที่​มังกร​แท้จริง​อย่าง​จื้อ​กุย​ผู้​นี้​คาบ​ไว้​ใน​อดีต​ ส่วน​กระแสน้ำ​ไหล​ที่​ถูก​ชาวบ้าน​ใน​พื้นที่​เรียก​ด้วย​ความเคยชิน​ว่า​ลำธาร​หลง​ซวี​ ภายหลัง​ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​ลำคลอง​สาย​นั้น​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​ ‘หนวด​มังกร​’ (หลง​ซวี​) ของแท้​แน่นอน​ เชื่อมโยง​อยู่​กับ​ถนน​หลัก​ของ​เมือง​เล็ก​ หนวด​มังกร​สอง​เส้น​หนึ่ง​หลบซ่อน​หนึ่ง​เปิดเผย​ นอกจากนี้​ถนน​ฝูลวี่​และ​ตรอก​เถาเย่​ก็​แบ่ง​เป็น​ลำคอ​และ​กระดูกสันหลัง​ช่วง​หนึ่ง​ของ​มังกร​ ถนน​ฝูลวี่​ทั้ง​สาย​ จวน​ทุกแห่ง​ก็​คือ​ยันต์​สยบ​กำราบ​หนึ่ง​แผ่น​ ส่วน​ต้น​ท้อ​ทุก​ต้น​ใน​ตรอก​เถาเย่​ก็​คล้าย​กับ​ตะปู​กัก​มังกร​หนึ่ง​ชิ้น​ที่​ร่วมกัน​กักขัง​มังกร​แท้จริง​ตัว​หนึ่ง​ที่​เส้นเอ็น​และ​กระดูก​โผล่​เปิด​เปลือย​ไว้​ที่​เดิม​ไม่ให้​ขยับเขยื้อน​

ที่ตั้ง​เตาเผา​มังกร​ใน​เมือง​เล็ก​หลาย​สิบ​แห่ง​ที่​ยอด​ฝีมือ​ตั้งใจ​ตามหา​ช่อง​โพรง​มังกร​ถูก​ขนานนาม​ว่า​เป็น​เตา​ที่​ไฟใน​เตา​พันปี​ไม่มีทาง​ดับ​ สำหรับ​จื้อ​กุย​แล้ว​นั่น​ไม่ต่าง​จาก​การ​ถูก​เพลิง​ใหญ่​หล่อหลอม​ไม่หยุดพัก​ ทุกครั้งที่​มีการ​เผา​เครื่อง​ปั้น​ก็​คือ​การ​ราด​น้ำมัน​ร้อน​รดน้ำ​เดือด​พล่าน​ลงมา​ ใช้พระ​เพลิง​เผาผลาญ​กรอก​เท​เข้ามา​ใน​จิตวิญญาณ​ของ​นาง​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ว่า​ “อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ปี​นั้น​เจ้าสามารถ​หนี​หลุด​ออก​มาจาก​บ่อ​โซ่เหล็ก​ได้​ หลังจากนั้น​ยัง​สามารถ​ใช้เนื้อหนัง​เรือน​กาย​ของ​มนุษย์​มาเดิน​ท่อง​อยู่​ใน​โลก​มนุษย์​อย่าง​อิสระ​เสรี​ เป็น​เพราะ​ใคร​”

หาก​อิง​ตาม​กฎเกณฑ์​ที่​อริยะ​ของ​สามลัทธิ​หนึ่ง​สำนัก​กำหนด​ไว้​ให้​กับ​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูช่วงแรก​สุด​ นี่​ถือเป็น​การแสดง​ความเมตตา​ที่อยู่​นอกเหนือ​กฎระเบียบ​ครั้งหนึ่ง​ ขณะเดียวกัน​ยัง​ตก​เป็นที่​ต้องสงสัย​ว่า​เป็น​การกระทำ​ที่​ล้ำเส้น​

จื้อ​กุย​กะพริบตา​ปริบๆ​ “แน่นอน​ว่า​เป็น​เพราะ​ฉีจิ้งชุน​ทำหน้าที่​เฝ้าพิทักษ์​ได้​ไม่ดี​พอ​ ไม่อย่างนั้น​จะเป็น​อย่างไร​ได้​อีก​?”

เฉิน​ผิง​อัน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ผิน​หน้า​ไป​น้อย​ๆ ทำท่า​เงี่ยหู​ตั้งใจฟัง​ ก่อน​จะยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เจ้าพูดว่า​อะไร​นะ​ ข้า​ได้ยิน​ไม่ชัด​ ลอง​พูด​อีกที​สิ?”

จื้อ​กุย​ฟุบ​ตัว​นอนคว่ำ​อยู่​บน​ราว​รั้ว​ หัวเราะ​คิกคัก​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าคิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ใคร​กัน​ ให้​ข้า​พูด​อี​กรอบ​ข้า​ก็​ต้อง​พูด​หรือ​”

เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ เฉิน​ผิง​อัน​มีนิสัย​อย่างไร​ นาง​รู้​ชัดเจน​ดี​

อยู่​กับ​คนดี​เกิน​เหตุ​อย่าง​เขา​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​สามารถ​พูดจา​ไร้​ยำเกรง​ได้​ ถึงอย่างไร​นับแต่​เด็ก​มาเขา​ก็​คือ​แมลง​น่าสงสาร​ที่​ถูก​คน​ดูแคลน​ ถูก​คน​พูดจา​ทิ่มแทง​ใจมาจน​ชิน​แล้ว​ ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​เขา​จะอาฆาตแค้น​ ยิ่ง​ไม่มีทาง​มาแก้แค้น​เอาคืน​ คน​ทั่วไป​แม้แต่​คำ​ว่า​คน​ทำดี​ย่อม​ได้ดี​ก็​ยัง​ไม่เชื่อ​ แต่​เขา​ดัน​ไป​เชื่อ​คำ​ที่ว่า​ทำชั่ว​ย่อม​ได้​ชั่ว​ นับแต่​เด็ก​มาก็​ไม่กลัวผี​ แต่​กลับเป็น​ผี​ขี้ขลาด​ที่​ไม่กล้า​ทำ​เรื่อง​เลวร้าย​ ไม่กล้า​มีจิตใจ​ที่​เลวร้าย​เลย​แม้แต่น้อย​ มีเพียง​กับ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​เท่านั้น​ที่​ห้าม​ล้ำเส้น​

ปี​นั้น​ครั้งแรก​ที่​จื้อ​กุย​ได้​เห็น​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ก็​ไม่ชอบ​เขา​แล้ว​ มังกร​ที่​แท้จริง​บน​โลก​เกิด​มาก็​มีเกล็ด​ย้อน​ (เชื่อ​กัน​ว่า​ใต้​คอ​มังกร​จะมีเกล็ด​ย้อนกลับ​ ใคร​ที่​แตะ​มาโดน​ มังกร​จะพิโรธ​และ​อาจ​ถึงตาย​ได้​) เพราะ​บรรพบุรุษ​ของ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​เชี่ยวชาญ​เวท​เรียก​รวม​มังกร​ เลี้ยง​มังกร​และ​พิฆาต​มังกร​ ดังนั้น​สำหรับ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ที่​เป็น​ทายาท​ของ​นัก​เลี้ยง​มังกร​ จื้อ​กุย​จึงมีความรู้สึก​รังเกียจ​สะอิด​สะเอียด​ที่​มาจาก​สัญชาตญาณ​อย่างหนึ่ง​

หลิว​เสี้ยน​หยาง​ในเวลานั้น​คือ​มนุษย์​ธรรมดา​จริง​แท้​แน่นอน​ จึงไม่รู้เรื่อง​พวก​นี้​เลย​แม้แต่น้อย​ แล้ว​ยัง​ถูก​เถียน​หว่าน​ผูก​ด้าย​แดง​ เขา​จึงคิด​แค่​ว่า​จื้อ​กุย​รังเกียจ​ที่​ตัวเอง​ไม่มีเงิน​

ซ่งจี๋ซิน​เดิน​ออก​มาจาก​ห้องพัก​ใน​ตัว​เรือ​ ข้าง​กาย​มีซ่งซวี่​องค์​ชาย​แห่ง​ต้า​หลี​ รอง​เจ้ากรม​จ้าว​แห่ง​กรม​พิธีการ​ และ​ยังมี​เด็กสาว​ที่​ได้ผล​เก็บเกี่ยว​จาก​การรื้อ​ค้น​มาเต็มไม้เต็มมือ​ติด​ตามมา​ด้วย​ เพียงแต่ว่า​อวี๋อวี๋​เหลือบ​ไป​เห็น​เซียน​กระบี่​ชุด​เขียว​ที่​ชอบ​ยิ้ม​หวาน​ ทว่า​กลับ​ฆ่าคน​ตา​ไม่กะพริบ​ผู้​นั้น​ นาง​ก็​หน้าบูด​ทันที​

แม้จะบอ​กว่า​เขา​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ไม่ใช่เขา​คน​นั้น​ แต่​ถึงอย่างไร​เขา​คน​นั้น​ก็​ยัง​เป็น​เขา​อยู่ดี​นี่​นา​

การต่อสู้​หลาย​ครั้งนั้น​ เขา​เคย​กระชาก​นาง​มา หมุนตัว​กลับ​ได้​ก็​ใช้ศอก​ถอง​เข้ามา​ที่​หัวใจ​ จน​นาง​กระอัก​เลือด​พุ่ง​ออกจาก​ปา​ก.​..หรือไม่​ก็​ยื่นมือ​มากด​หน้า​ ดึง​จิตวิญญาณ​ทั้งหมด​ของ​นาง​ออกมา​ตามใจชอบ​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​ตน​แผนภูมิ​ดิน​ของ​ต้า​หลี​ จุดจบ​ของ​นาง​ถือว่า​ดีแล้ว​ มีอีก​หลาย​คน​ที่​สภาพ​อเนจอนาถ​มาก​ยิ่งกว่า​

พอ​คิดถึง​เรื่อง​ที่​น่า​หงุดหงิด​ใจซึ่งไม่อยาก​จะย้อน​นึกถึง​พวก​นี้​ อวี๋อวี๋​ก็​รู้สึก​ว่า​เหล้า​บน​เรือข้ามฟาก​ยังคง​น้อย​เกินไป​

ซ่งจี๋ซิน​ยิ้ม​ถาม “มาหา​ข้า​มีธุระ​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ย้อนถาม​ “ไม่ใช่ว่า​เจ้ามาหา​ข้า​เพราะ​มีธุระ​หรอก​หรือ​?”

ซ่งจี๋ซินพ​ยัก​หน้า​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เข้าไป​นั่ง​คุย​กัน​ด้านใน​”

จ้าว​เหยา​สามคน​รั้ง​เท้า​อยู่​ข้างนอก​อย่าง​รู้​กาลเทศะ​ ให้​เพื่อนบ้าน​ตรอก​หนี​ผิง​สอง​คน​รำลึก​ความหลัง​กัน​เพียงลำพัง​

ใน​ห้อง​ห้อง​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​กับ​ซ่งจี๋ซิน​นั่ง​หันหน้าเข้าหากัน​ จื้อ​กุย​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​ ไม่ได้​นั่งลง​ แต่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​ซ่งจี๋ซิน​ ก็​นาง​เป็น​สาวใช้​นี่​นะ​ ตอน​ที่อยู่​เมือง​เล็ก​บ้านเกิด​ อิง​ตาม​ขนบธรรมเนียม​แล้ว​ สตรี​ทั่วไป​เวลา​กินข้าว​ไม่ได้​นั่ง​โต๊ะ​ อีก​ทั้ง​ขอ​แค่​เป็น​สตรี​ที่​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ยาม​ไป​เซ่นไหว้​บรรพบุรุษ​ที่​สุสาน​ก็​ไม่อาจ​ไป​เข้าร่วม​พิธี​ด้วย​เช่นกัน​

ซ่งจี๋ซิน​ถามเข้า​ประเด็น​ทันที​ “อย่า​ฆ่าคน​ นี่​คือ​เส้น​ขอบเขต​ต่ำสุด​ของ​ข้า​ ไม่อย่างนั้น​ข้า​ก็​ไม่สน​ว่า​ต้อง​ทุ่มเท​ด้วย​อะไร​ ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​งัดข้อ​กับ​เจ้าและ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ให้ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “ซ่งมู่ เจ้าต้อง​เข้าใจ​เรื่อง​หนึ่ง​ให้​ชัดเจน​เสีย​ก่อน​ ไม่ใช่ข้า​ทำให้​นาง​ลำบากใจ​ แต่​เป็น​นาง​ที่​กำลัง​ทำให้​ข้า​ลำบากใจ​”

จื้อ​กุย​ยิ้ม​กล่าว​ “คุณชาย​คิด​มากเกินไป​แล้ว​ คนดี​คน​หนึ่ง​อยู่ดีๆ​ จะฆ่าคน​ได้​อย่างไร​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​อธิบาย​เหตุผล​สอง​สามประโยค​ สั่งสอน​อีก​เล็กน้อย​ก็​สามารถ​เดิน​จากไป​อย่าง​สง่าผ่าเผย​ได้​แล้ว​”

ซ่งจี๋ซิน​จ้อง​เฉิน​ผิง​อัน​เขม็ง​ ส่ายหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ใช้คุณธรรม​ตอบแทน​คุณธรรม​ ใช้ความแค้น​ตอบแทน​ความแค้น​ ใช้ความแค้น​ตอบแทน​คุณธรรม​คือ​คน​ถ่อย​ที่​แท้จริง​ ใช้คุณธรรม​ตอบแทน​ความแค้น​คือ​วิญญูชน​จอมปลอม​ นี่​ไม่ใช่หลักการ​เหตุผล​ของ​ข้า​ แต่​เป็น​คำสอน​ของ​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​เอ่ย​กับ​จื้อ​กุย​ “เป็น​คนนอก​ก็​อย่า​อยู่​ที่นี่​เลย​”

จื้อ​กุย​ส่ายหน้า​เหมือน​กลอง​ป๋อง​เป๋ง​ “ข้อ​แรก​ ข้า​ไม่ใช่คนนอก​ ข้อ​สอง​ ข้า​ไม่ใช่คน​ด้วย​”

ซ่งจี๋ซิน​เอ่ย​ “จื้อ​กุย​ เจ้าออก​ไป​ก่อน​เถอะ​”

จื้อ​กุย​เบ้​ปาก​ ครั้น​เรือน​กาย​พลัน​หายวับ​ไป​

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​ยกมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ สอง​นิ้ว​ประกบ​กัน​เป็น​มุทรา​กระบี่​

กระบี่จงมา

กระบี่จงมา

Score 10
Status: Completed

อ่านนิยาย กระบี่จงมา 1 – 400 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


” หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความลี้ลับมหัศจรรย์  ใจกลางฟ้าดิน เคยมีปัญญาชนผู้หนึ่งใช้หนึ่งกระบี่ฟาดฟันให้เกิดน้ำตกธารสวรรค์ คือความภาคภูมิใจสูงสุดของโลกมนุษย์  หน้าผาทะเลบูรพา มีนักพรตไร้นามผู้หนึ่งที่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด หวังเพียงให้ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า  แดนสุขาวดีปัจฉิมทิศ มีหลวงจีนเฒ่าที่ชอบเล่าเรื่องราวให้ผู้คนฟัง เลี้ยงมังกรสวรรค์ไว้เก้าตัว พื้นที่กันดารแดนใต้ มีจิตรกรตาบอดควบคุมหุ่นเชิดเกราะทองสูงเท่าเนินเขาให้เคลื่อนย้ายภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูก ปูแผ่เป็นภาพลายปัก
เมื่อวันหนึ่งเด็กหนุ่มยากจนที่เติบโตทางทิศเหนือได้พบกับเซียนที่เหนือศีรษะมีกระบี่บินนับพันนับหมื่นประดุจฝูงตั๊กแตน “

เขาจึงอยากจะไปเห็นปัญญาชนคนนั้น เห็นคลื่นยักษ์ที่โถมตัวเทียมฟ้าของทะเลบูรพา

เห็นทะเลทรายสีเหลืองทองกว้างไกลนับหมื่นลี้ของแดนประจิม

และอยากไปเห็นภูเขาลูกโอฬารของแดนกันดารทางใต้ที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงกับตาตัวเอง

ดังนั้น ในที่สุดวันหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงสะพายกระบี่ไม้พาดหลัง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้

–ข้ามีนามว่าเฉินผิงอัน ผิงอันที่แปลว่าสงบสุข สันติ ข้าคือมือกระบี่คนหนึ่ง–

Options

not work with dark mode
Reset