กระบี่จงมา 868.3 กระบี่สังหารบินทะยานขั้นสูงสุด

ตอนที่ 868.3 กระบี่สังหารบินทะยานขั้นสูงสุด

การแสดงออก​บน​มหา​มรรคา​ที่​ลี้ลับ​เกิน​จะหยั่ง​เช่นนี้​เป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ สมดั่ง​คำ​ว่า​พันปี​ก็​ยาก​จะพานพบ​อย่าง​แท้จริง​ ต่อให้​จะเกิด​ความเข้าใจ​ตระหนัก​รู้​ได้​แค่​เสี้ยว​เดียว​ก็​เท่ากับ​ว่า​ได้​ก้าวเดิน​ก้าว​หนึ่ง​ออก​ไป​บน​เส้นทาง​ที่​ผู้อื่น​บุกเบิก​มาได้​สำเร็จ​ เมื่อ​มีก้าว​แรก​ก็​เท่ากับ​ว่า​มีทิศทาง​ของ​มหา​มรรคา​แล้ว​

ดังนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​ใช้กระบี่​ยาว​เย่​โหย​ว​มาหยั่งเชิง​ความจริง​เท็จ​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ฟ้าดิน​ด้านนอก​มีกาย​ธรรม​ร่าง​ทอง​ที่​เท้า​เหยียบ​อยู่​บน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจำลอง​ ขณะเดียวกัน​ก็​ควบคุม​ธงเซียน​กระบี่​และ​ตราประทับ​เวท​ห้า​อสนี​ นอกจากนี้​ก็​ยังมี​นักพรต​ชุด​เขียว​ที่​คล้ายคลึง​กับ​จิต​หยิน​ออก​เดินทางไกล​ซึ่งคอย​รับมือ​กับ​เวท​น้ำ​ที่​ดรุณี​น้อย​บน​ลำคลอง​ร่าย​ใช้อย่าง​ไม่จบ​ไม่สิ้น​

ต่าง​ก็​ไม่ได้​อยู่​ว่าง​

ลู่​เฉิน​ถาม “ด้านนอก​ยัง​ประลอง​เวท​คาถา​กัน​อยู่​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ “หยวน​ซงกำลัง​ฟัน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงแล้ว​”

ทุกครั้งที่​หยวน​ซงปล่อย​กระบี่​ออกมา​ก็​คือ​การนำ​หิน​ของ​ภูเขา​ลูก​อื่น​มากลึง​เป็น​หยก​ของ​ตัวเอง​

ป๋า​ยอ​วี้​จิงยิ่งใหญ่​เกินไป​มาก​จริงๆ​ การ​ไหลริน​ของ​มหา​มรรคา​บางอย่าง​ที่​หลบซ่อน​อยู่​ใน​ซอก​ลึก​ ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​จะเป็นเจ้าของ​ผู้​ที่​หล่อหลอม​มัน​ก็​ยัง​ไม่อาจ​สำรวจ​ตรวจสอบ​ได้​อย่าง​ครบถ้วน​ บวก​กับ​ที่​สาย​ของ​เวท​คาถา​ลัทธิ​เต๋า​นั้น​ เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​เข้าใจ​มาก​นัก​ หลาย​ๆ เรื่อง​แค่​รู้​ว่า​มัน​คือ​อะไร​ แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​มัน​ถึงเป็น​เช่นนั้น​ ก็​เหมือน​นัก​แกะสลัก​ที่​เป็น​มนุษย์​ธรรมดา​ล่าง​ภูเขา​ที่​สามารถ​แกะสลัก​ตราประทับ​งดงาม​ชิ้น​หนึ่ง​ได้​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​ไม่กล้า​บอ​กว่า​ตัวเอง​เข้าใจ​เนื้อแท้​ที่อยู่​ใน​หิน​หยก​ได้​อย่าง​ถ่องแท้​

ดังนั้น​แค่​มั่นใจ​ว่า​สมบัติ​หนัก​ตระกูล​เซียน​ชิ้น​นั้น​จะไม่ถูก​หยวน​ซงฟัน​จน​ย่อยยับ​ก็​พอแล้ว​

ยิ่ง​หยวน​ซงสามารถ​ใช้เวท​กระบี่​มารื้อถอน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจำลอง​ได้​มาก​เท่าไร​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยิ่ง​สามารถ​นิ่งเฉย​มอง​ดูดาย​อยู่​ข้างๆ​ ได้​มาก​เท่านั้น​

ความ​น่าเสียดาย​เพียง​อย่าง​เดียว​ก็​คือ​ วัตถุ​ที่​บรรพ​จารย์​บุกเบิก​ภูเขา​ตำหนัก​อวี้ฝู​ใช้สร้าง​เลียนแบบ​คือ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเก่า​ของ​เมื่อ​หลาย​พัน​ปีก่อน​แล้ว​

ลู่​เฉิน​นวด​คลึง​ปลาย​คาง​ “แบบนี้​ก็​น่าประหลาด​แล้ว​”

หาก​หยวน​ซงยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​ก็​จะสามารถ​ช่วย​ให้​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ประคับประคอง​ตัว​อยู่​ได้​นาน​ยิ่งกว่า​เดิม​

ไม่อย่างนั้น​หา​กร่าย​วิชา​อภินิหาร​ ปล่อย​เวท​คาถา​ไป​ไม่หยุดยั้ง​ก็​มีแต่​จะทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​ออก​กระบี่​ใส่ภูเขา​ทัว​เย​ว่​น้อยลง​หลาย​สิบ​ที​หรือ​ถึงขั้น​หลาย​ร้อย​ที​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ปีศาจ​ใหญ่​หยวน​ซงย่อม​หวัง​ว่า​จะได้​เข่นฆ่า​อย่าง​สาแก่ใจ​สักครั้ง​ อย่างเช่น​ใช้สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​มาถามกระบี่​กับ​ผู้อื่น​ ส่วน​คน​ผู้​นั้น​จะใช่ข้า​หรือไม่​ ไม่ได้​สำคัญ​เลย​ ขอ​แค่​ขอบเขต​ของ​อีก​ฝ่าย​มาก​พอ​ เช่นว่า​หาก​เปลี่ยนไป​เป็น​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉี ไม่แน่​ว่า​เวลานี้​ก็​อาจจะ​เริ่ม​ผลัดกัน​ฟัน​กระบี่​แล้ว​”

อีก​เดี๋ยว​เมื่อ​ตน​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​จะต้อง​ทำให้​ผู้ฝึก​กระบี่​หยวน​ซงสมความปรารถนา​แน่​

อยู่ดีๆ​ ลู่​เฉิน​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “สรุป​แล้ว​เจ้าหมอ​นั่น​กิน​ปีศาจ​ใหญ่​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​มีพละกำลัง​เทียบเท่า​ราชา​บน​บัลลังก์​ไป​มาก​น้อย​แค่​ไหน​กัน​แน่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ครุ่นคิด​ “เยอะ​มาก​”

แล้ว​พูด​ย้ำ​อี​กรอบ​ “เยอะ​มาก​ๆ!”

หนึ่ง​ใน​ทาง​หนี​ที​ไล่​ของ​โจว​มี่ก็​คือ​คาดการณ์​ได้​แม่นยำ​ว่า​ป๋า​ย​เจ๋อ​จะต้อง​หวนกลับ​บ้านเกิด​ และ​ยินยอมพร้อมใจ​จะสนับสนุน​ช่วยเหลือ​ผู้​ครอง​ใต้​หล้า​ในนาม​อย่าง​ผู้ฝึก​กระบี่​เฝ่ย​หรา​น​ ร่วมแรง​กัน​คุมเชิง​กับ​ไพศาล​

ต้อง​รู้​ว่า​จิต​หยิน​ของ​มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่นั้น​อยู่​ที่​ลู่​ฝ่าเหยียน​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ที่​ถูก​เขา​กลืน​กิน​มหา​มรรคา​ ส่วน​จิต​หยาง​กาย​นอกกาย​ก็​คือ​ปีศาจ​ใหญ่​ป๋า​ยอิ๋ง​ราชา​บน​บัลลังก์​กระดูก​ นอกจากนี้​ยัง​กิน​ราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​อย่าง​พวก​เชี่ยอวิ้น​ หวง​หลวน​ เหย้า​เจี่ย​ ฯลฯ​ ไป​รวดเดียว​พร้อมกัน​ด้วย​

นี่​ยัง​เป็น​แค่​ผลลัพธ์​ที่​โจว​มี่เอา​มาวาง​ไว้​บน​หน้า​โต๊ะ​ให้​เห็น​กัน​จะๆ เท่านั้น​

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​คาดการณ์​ได้​แม่นยำ​ว่า​ป๋า​ย​เจ๋อ​จะหวนกลับ​มายัง​เปลี่ยว​ร้าง​ คาด​ว่าด้วย​กระเพาะ​ของ​โจว​มี่แล้ว​คง​ยัง​ต้อง​แอบ​กิน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ไป​อย่าง​ลับ​ๆ มากกว่า​นี้​

เรื่อง​แบบนี้​ เกรง​ว่า​นอกจาก​โจว​มี่แล้ว​ หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​คนใด​ก็ตาม​ ต่อให้​จะเป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่เหมือนกัน​ แต่​ก็​คง​ไม่มีใคร​ทำได้​อยู่ดี​

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “หากว่า​กัน​ใน​บาง​ระดับ​แล้ว​ ไอ้​หมอ​นี่​ก็​สามารถ​ถือว่า​เป็น​…คน​ที่​ตื่น​เพียง​คนเดียว​ได้​จริงๆ​”

ฟ้าอำนวย​ดิน​อวยพร​คน​สามัคคี​ ทั้ง​สามอย่างนี้​จะขาด​อย่างใด​ไป​ไม่ได้​ อันดับ​แรก​คือ​ต้อง​ได้รับ​การ​ยอมรับ​โดยปริยาย​จาก​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ก่อน​ ต่อมา​คือ​ต้อง​ให้​ขอบเขต​ของ​โจว​มี่เอง​สูงมาก​พอ​ มีศักยภาพ​พอที่จะ​สังหาร​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่ได้​

ข้อ​สุดท้าย​ แล้วก็​เป็นปัญหา​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ ยังคง​เป็นการ​ที่​โจว​มี่สามารถ​อาศัย​ความรู้​สูงส่งเทียมฟ้า​ของ​ตัวเอง​มาคลี่คลาย​ภัย​แฝงที่เกิด​จาก​การปะทะ​กัน​บน​มหา​มรรคา​เหล่านั้น​ได้​ โจว​มี่ยัง​ต้อง​แน่ใจ​ว่า​การกระทำ​ของ​ตน​จะไม่เป็นการ​เนรคุณ​ต่อ​สวรรค์​ ไม่ถูก​มหา​มรรคา​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​รังเกียจ​ทอดทิ้ง​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​ทำลาย​ศักยภาพ​ของ​ตัวเอง​ลง​…

มิฉะนั้น​เหตุใด​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ถึงไม่ทำ​เรื่อง​นี้​ด้วยตัวเอง​เล่า​? เขา​สามารถ​อาศัย​สิ่งนี้​มาก้าว​ออก​ไป​ครึ่ง​ก้าว​สุดท้าย​ มหา​มรรคา​ก็​จะสมบูรณ์​ไร้​ช่องโหว่​ กลายเป็น​ขอบเขต​สิบห้า​ได้​อย่าง​แท้จริง​

ใช่ว่า​ไม่อยาก​ แต่​เป็น​เพราะ​ทำ​ไม่ได้​

มีความเป็นไปได้​อย่าง​สูงว่า​โจว​มี่ที่​เดิน​ขึ้น​ฟ้าไป​แล้ว​จะยังมี​วิธีการ​บางอย่าง​ที่​สามารถ​ดึง​เอา​ศักยภาพ​ของ​บุคคล​ ‘ซี่โครง​ไก่​’ ที่​เขา​พา​ไป​ยัง​สรวงสวรรค์​ใหม่​เหล่านั้น​ออกมา​ แล้ว​ค่อย​ทำลาย​อีก​ฝ่าย​ทิ้ง​อย่าง​สิ้นซาก​ เพื่อให้​ป๋า​ย​เจ๋อ​ได้​ชดเชย​ความเสียหาย​บน​มหา​มรรคา​จาก​การปลุก​พวก​ปีศาจ​ใหญ่​ที่​จำศีล​ให้​ฟื้น​ตื่น​

ยกตัวอย่างเช่น​…ชื่อจริง​ล้วน​ตกเป็นของ​ป๋า​ย​เจ๋อ​?

ถ้าอย่างนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​ วิธีการ​ที่​เหนี่ยน​ซินค​น​เย็บผ้า​ช่วย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​แบกรับ​ชื่อจริง​ของ​เผ่า​ปีศาจ​

ก็​จะกลาย​มาเป็นการ​วางหมาก​ที่​สำคัญ​ซึ่งไร้เหตุผล​ตา​หนึ่ง​

ขัดขวาง​ป๋า​ย​เจ๋อ​ ช่วงชิง​ชื่อจริง​

พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​เป็น​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​ยังอยู่​บน​โลก​มนุษย์​ขัดขวาง​โจว​มี่องค์​เทพ​ที่​ตัว​อยู่​นอก​ฟ้า

เส้นทาง​สะพาน​ไม้เส้น​หนึ่ง​คล้าย​มีคน​มาขวางทาง​ ตัดขาด​การ​ไหลริน​ของ​สายน้ำ​ ไม่ใช่ข้า​แล้​วจะ​ยังมี​ใคร​ทำได้​อีก​?

ลู่​เฉิน​รู้สึก​นับถือ​ยิ่งนัก​ “ก่อนหน้านี้​ตอน​อยู่​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ ป๋า​ย​เจ๋อ​ไม่ได้​ลงมือ​กับ​เจ้า ช่างเป็น​มาด​ของ​ยอด​ฝีมือ​ที่​ไม่ธรรมดา​เลย​จริงๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “หาก​เปลี่ยน​จุดยืน​กัน​ ข้า​ก็​ไม่มีทาง​ลงมือ​เหมือนกัน​ ขนาด​ข้า​ยัง​ทำได้​ อาจารย์​ป๋า​ย​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ทำได้​ ไม่จำเป็นต้อง​กังวล​อะไร​”

ลู่​เฉิน​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​ไป​พักใหญ่​ เริ่ม​จะเข้าใจ​แล้ว​ว่า​วาสนา​กับ​ผู้อาวุโส​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ได้​มาจาก​ไหน​

ฝึกปรือ​จน​เข้าขั้น​ชำนาญ​ ยอดเยี่ยม​ที่สุด​ อีก​ทั้งที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​จริงใจ​อย่าง​มาก​

ลู่​เฉิน​ลังเล​อยู่​ชั่วขณะ​ ก่อน​ถามว่า​ “เฉิน​ผิง​อัน​ แท้จริง​แล้ว​เจ้าไม่ได้​ถนัดซ้าย​ ใช่หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ปิดบัง​ “ตอน​เป็น​เด็ก​มีครั้งหนึ่ง​ขึ้น​เขา​แล้ว​สะดุด​ล้ม​ มือขวา​ถูก​กรีด​เป็นแผล​ บาดแผล​ลึก​ถึงเส้นเอ็น​และ​กระดูก​ต้อง​รักษา​นาน​ร้อย​วัน​ ไม่อาจ​ใช้มือ​ข้าง​นั้น​ทำงาน​ได้​เลย​ต้อง​ใช้มือซ้าย​ทำงาน​ยาวนาน​มาก​ช่วง​หนึ่ง​ ภายหลัง​เกิด​เป็น​ความเคยชิน​ อีก​ทั้ง​การ​ขึ้น​รูป​เครื่อง​ปั้น​ก็​พิถีพิถัน​ใน​เรื่อง​มือสอง​ข้าง​ที่​ต้อง​สมดุล​กัน​ จึงพูด​ไม่ได้​ว่า​ข้า​ถนัดซ้าย​หรือ​ถนัดขวา​”

ทัศนียภาพ​ที่​งดงาม​ สมุนไพร​ที่​มีราคา​ ส่วนใหญ่​มักจะ​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ที่​อันตราย​เสมอ​

ลู่​เฉิน​อับจน​คำพูด​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ “เจ้าเกินไป​หน่อย​แล้ว​จริงๆ​ นะ​…”

มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่าการ​ปล่อย​หมัด​และ​ออก​กระบี่​ด้วย​มือขวา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ เขา​ไม่เคย​ออกแรง​เต็มที่​อย่าง​แท้จริง​มาก่อน​ ต่อให้​เคย​ทำ​มาก่อน​ แต่​อยู่​ใน​สายตา​ของ​คนนอก​แล้วก็​ต้อง​อำพราง​ได้​ดีเยี่ยม​มาโดยตลอด​

ดังนั้น​การ​ ‘ถนัดซ้าย​’ ที่​เฉิน​ผิง​อัน​อำพราง​มาได้​อย่าง​ยอดเยี่ยม​ แท้จริง​แล้วก็​คือ​เวท​อำพราง​ตาอีก​ชั้นหนึ่ง​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่ได้​ส่งผลกระทบ​กับ​ใคร​สักหน่อย​”

หวน​นึกถึง​ปี​นั้น​ เด็กหนุ่ม​รองเท้าแตะ​ของ​ตรอก​หนี​ผิง​ ตอนนั้น​ที่​เดินผ่าน​แผง​ดูดวง​ของ​ตน​ มอง​แล้ว​ช่างเป็น​เด็ก​ใสซื่อ​บริสุทธิ์​ยิ่งนัก​ ยาม​พูดคุย​กับ​คนอื่น​ก็​ไม่เคย​เอ่ย​ถ้อยคำ​แปลก​แปร่ง​ระคายหู​แม้แต่​ครึ่ง​คำ​

แต่​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ เรื่อง​หลงใหล​ใน​ทรัพย์สิน​ก็​ยัง​คงเดิม​

อันที่จริง​หาก​สืบเสาะ​ให้​ลึก​ลง​ไป​ ลู่​เฉิน​กลับ​ไม่รู้สึก​ประหลาดใจ​กับ​การเปลี่ยนแปลง​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

ตัวอักษร​ใน​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​ยิ่ง​มีน้อย​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​มีนัย​ให้​ขบคิด​ยาว​ไกล​มาก​เท่านั้น​ หวน​กลับมา​มอง​ตัวอักษร​ที่​มีมาก​ ส่วนใหญ่​มักจะ​ทน​การ​กระทบกระเทียบ​ใน​จุด​เล็ก​ๆ ไม่ได้​นัก​ ทว่า​อักษร​ดำ​กระดาษ​ขาว​ ผิด​หรือ​ถูก​ ถึงอย่างไร​ก็​ล้วน​อยู่​ตรงนั้น​ แค่​มอง​ก็​เห็น​ครบถ้วน​กระบวนความ​ ความทุกข์ยาก​ การ​ขัดเกลา​ การ​ยืนหยัด​ การ​เลือก​และ​สละ​ การ​เดินทางไกล​ หวน​กลับคืน​สู่บ้านเกิด​ ความผิดหวัง​ ความหวัง​

ลู่​เฉิน​เหลือบมอง​กระบี่​ยาว​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ สีหน้า​เปลี่ยน​มาเป็น​เครียด​ขรึม​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​? เหตุใด​ขอบเขต​ถึงชัดเจน​ขนาด​นี้​?”

อยู่​นอก​ฟ้า นาง​เคย​สังหาร​ผู้​สวม​เสื้อเกราะ​กับ​มือ​ของ​ตัวเอง​มาก่อน​

ตอนที่​ลู่​เฉิน​เข้าร่วม​การประชุม​ริม​ลำคลอง​ก็ได้​รู้เรื่อง​นี้​แล้ว​

เพราะ​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​หิ้ว​หัว​หนึ่ง​มาเข้าร่วม​การประชุม​ด้วย​

จากนั้น​นาง​ก็​โยน​หัว​นั้น​ทิ้ง​ลง​ไป​ใน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​อย่าง​ไม่ใส่ใจ

ภาพ​เหตุการณ์​นั้น​ ลู่​เฉิน​เชื่อ​ว่า​ต่อให้​ผ่าน​ไป​อีก​หนึ่ง​หมื่น​ปี​ ตน​ก็​จะยัง​จด​จำได้​ติดตา​เหมือน​เพิ่ง​เกิดขึ้น​สดๆ ร้อนๆ​

แต่​ตาม​การอนุมาน​ของ​ลู่​เฉิน​ ต่อให้​ใน​การเข่นฆ่า​นอก​ฟ้าจะทำให้​มหา​มรรคา​ของ​นาง​ได้รับ​ความเสียหาย​สาหัส​ กระนั้น​ก็​ไม่น่าจะ​มีสภาพการณ์​อย่าง​ตอนนี้​ได้​ ก็​เหมือนกับ​ว่า​นาง​ก็​คือ​นาง​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​ กระบี่​ก็​คือ​กระบี่​ ผู้​ถือ​กระบี่​ก็​เป็น​แค่​ผู้​ถือ​กระบี่​ตาม​ความหมาย​ของ​ตัวอักษร​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​ก้มหน้า​ลง​มอง​กระบี่​ยาว​ใน​มือ​แวบ​หนึ่ง​ เอ่ย​ว่า​ “ปี​นั้น​อยู่ดีๆ​ ข้า​ก็ได้​ออก​ไป​จาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไป​ปรากฏตัว​อยู่​ใน​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​ถ้ำแห่ง​โชควาสนา​ ภายหลัง​ค้นพบ​ว่า​เป็น​ศิษย์​พี่​ชุย​ที่​ไม่รู้​ว่า​ใช้วิธีการ​แบบ​ใด​มาสะบั้น​การ​เชื่อมโยง​ทางจิต​ระหว่าง​ข้า​กับ​นาง​”

นอกจาก​จงใจให้​เฉิน​ผิง​อัน​พลัด​เดิน​หลง​เข้าไป​ใน​ทางแยก​ รู้สึก​เหมือน​อยู่​ท่ามกลาง​เมฆหมอก​ที่​มองเห็น​อะไร​ไม่ชัดเจน​ จำต้อง​ทบทวน​ถามใจตัวเอง​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ว่า​สรุป​แล้ว​ชีวิต​ที่ผ่านมา​เป็น​ความจริง​หรือ​เป็น​ฝัน​ลวง​ครั้งหนึ่ง​ ต้อง​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​เลือก​ด้วยตัวเอง​ หลังจากที่​เผชิญ​กับ​สามฝัน​ใน​ถ้ำแห่ง​โชควาสนา​ก็ได้​สะบั้น​การ​เชื่อมโยง​ระหว่าง​เฉิน​ผิง​อัน​กับ​นาง​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ ซึ่งนั่น​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​กุญแจ​สำคัญ​ของ​ฝัน​ที่สี่​แล้ว​

ดูเหมือน​ชุย​ฉาน​จะจงใจทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​สูญเสีย​ ‘ความสงบ​ทางใจ​’ ส่วน​นี้​ไป​ด้วย​ เพื่อที่จะ​สอน​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​ให้​กับ​ศิษย์​น้อง​เล็ก​คน​นี้​ว่า​ สิ่งของ​นอกกาย​ทุกอย่าง​บน​โลก​ล้วน​ไม่มาก​พอที่จะ​กลาย​มาเป็น​ที่พึ่ง​ของ​จิต​แห่ง​มรรคา​ดวง​หนึ่ง​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “ซิ่ว​หู่​ช่างมีความตั้งใจ​ด้วย​เจตนา​ดี​ ศิษย์​พี่​ที่​เป็น​แบบนี้​จะไปหา​จาก​ไหน​ได้​อีก​”

“เจ้าก็​อยากได้​สัก​คน​หรือ​?”

“ถ้าอย่างนั้น​ก็​ช่างเถิด​ อย่า​ดีกว่า​ อย่า​ดีกว่า​ ผิน​เต้า​แขนขา​เล็ก​บาง​ เกิน​ครึ่ง​คง​ไม่มีดวง​พอ​จะได้​เสวยสุข​”

ศิษย์​พี่​ของ​ตน​ก็​ดีมาก​แล้ว​นี่​นา​ เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเป็นที่​รู้กัน​ทั่ว​ว่า​มรรค​กถา​สูง นิสัย​ดี​

จะว่า​ไป​แล้ว​ อวี๋​โต้​ว​ ลู่​เฉิน​ เฉิน​ผิง​อัน​ คน​ทั้ง​สามต่าง​ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ที่​ศิษย์​พี่​รับ​แทน​อาจารย์​ทั้งสิ้น​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​ “แค่​พอสมควร​ก็​พอแล้ว​ สถานที่​แห่ง​นี้​อยู่​นาน​ไป​ก็​ไร้ประโยชน์​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ กลับมา​ถือ​กระบี่​ด้วย​มือซ้าย​อีกครั้ง​

ด้านนอก​ฟ้าดิน​ของ​ระเบียง​ยาว​ หยวน​ซงปล่อย​กระบี่​ติดๆ​ กัน​ไป​ยี่สิบ​กว่า​ครั้ง​ ถึงกับ​สามารถ​สะบั้น​การ​เชื่อมโยง​ระหว่าง​ห้า​นคร​สิบสอง​หอ​เรือน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจำลอง​ได้​สำเร็จ​

ในที่สุด​หยวน​ซงก็​หยุด​ออก​กระบี่​ ก้มหน้า​ลง​มอง​มือ​ที่​ถือ​กระบี่​ซึ่งกระดูก​ขาว​โผล่​ สีหน้า​ของ​เขา​พลัน​เลื่อนลอย​ไป​ชั่วขณะ​ แต่เพียง​ไม่นาน​สายตา​ก็​เปลี่ยน​มาเป็น​หนักแน่น​ เงยหน้า​มอง​ไป​ยัง​ลำคลอง​เย่ลั่ว​

ในที่สุด​อาจารย์​ป๋า​ย​ก็​หวนคืน​บ้านเกิด​แล้ว​

ถ้าอย่างนั้น​ก็​สามารถ​วางใจ​ได้​แล้ว​

ไม่เคย​ผิด​ต่อ​อาจารย์​ผู้​มีพระคุณ​ ไม่เคย​ผิด​ต่อ​บ้านเกิด​

หวัง​เพียง​ว่า​ตน​จะไม่ผิด​ต่อ​ชื่อ​ที่​อาจารย์​ป๋า​ย​ตั้ง​ให้​ด้วย​

หมื่น​ปี​ให้หลัง​ จะพบ​หน้า​กัน​หรือไม่​ อันที่จริง​ไม่ได้​สำคัญ​แล้ว​

กระบี่​ฟัน​ลง​บน​ความว่างเปล่า​ มือ​กระบี่​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่ได้​ร่าย​กาย​ธรรม​เดิน​ออก​มาจาก​ริ้ว​กระเพื่อม​ของ​เมฆหมอก​

หยวน​ซงยืน​อยู่​บน​ยอดเขา​สูงของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ยก​กระบี่​ยาว​ใน​มือขึ้น​ “ถามกระบี่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​

สอง​ฝ่าย​ที่​คุมเชิง​กัน​ต่าง​ก็​เก็บ​กาย​ธรรม​และ​จิต​หยิน​ลง​ไป​

ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ ผู้ฝึก​กระบี่​หยวน​ซง

กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​ ผู้ฝึก​กระบี่​เฉิน​ผิง​อัน​

หยวน​ซงดีด​ปลายเท้า​ทะยาน​ร่าง​ออก​ไป​จาก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ กระโจน​เข้าหา​คน​ชุด​เขียว​

บน​ร่าง​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​มีเส้น​ยา​วสี​ขาว​ดำ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​พุ่ง​ออกมา​ พริบตาเดียว​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ของ​เขา​ก็​มิอาจ​ขยับเขยื้อน​ได้​

คือ​เส้นด้าย​แห่ง​ผลกรรม​ที่​ถูก​ชัก​ดึง​มาจาก​กาย​ธรรม​หมื่น​จั้งซึ่งถูก​หอก​ยา​วสี​ทอง​แทง​ทะลุ​ไป​ก่อนหน้านี้​

นี่​หมายความว่า​บน​เส้น​ทางการ​เดินทางไกล​แต่ละครั้ง​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ยิ่ง​เขา​ชอบ​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​คนอื่น​มาก​เท่าไร​ ยิ่ง​ไม่เห็น​การ​อยู่​ไกล​ห่าง​จาก​โลกีย์​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เป็น​เรื่องสำคัญ​มาก​เท่าไร​ ก็​จะยิ่ง​เกิด​เส้นด้าย​แห่ง​ผลกรรม​ถี่แน่น​มากขึ้น​เท่านั้น​

หาเหาใส่หัว​ ย่อม​ต้อง​บาดเจ็บสาหัส​

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้จิต​บังคับ​กระบี่​ยาว​เย่​โหย​ว​ พยายาม​สะบั้น​เส้นด้าย​แห่ง​ผลกรรม​ให้​มาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​ทำได้​ ขณะเดียวกัน​ก็​เรียก​กระบี่​บิน​จันทร์​ใน​บ่อ​ออกมา​ ใช้กระบี่​ที่​มาก​นับ​หมื่น​เล่ม​มารวมกลุ่ม​กัน​สร้าง​เป็น​ค่าย​กล​กระบี่​ ปกป้อง​รอบกาย​ตัวเอง​เอาไว้​ สกัด​ขวาง​การ​ปล่อย​กระบี่​ประชิดตัว​จาก​หยวน​ซง

ค่าย​กล​กระบี่​เหมือน​แก้ว​ที่​ปริ​แตก​ ส่งเสียงดัง​เพ​ล้ง​แล้ว​แตก​กระจาย​รอบทิศทาง​ หนึ่ง​คน​หนึ่ง​กระบี่​บุก​มาฆ่าถึงตรงหน้า​ ปลาย​กระบี่​ชี้ตรง​มาที่​หว่าง​คิ้ว​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ แสงทอง​จุด​หนึ่ง​พลัน​พุ่ง​มาถึงใน​เสี้ยว​วินาที​

เฉิน​ผิง​อัน​พลิก​หลัง​มือ​ปาด​กระบี่​ใน​แนว​เฉียง​ตัดหัว​หยวน​ซง

นาที​ถัดมา​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​กระเด็น​ออก​ไป​หลาย​สิบ​ลี้​ บน​พื้นดิน​ถูก​สอง​เท้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ครูด​เป็น​ร่อง​แตก​เส้น​หนึ่ง​

ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​จะแอบ​ร่าย​เรือน​กาย​วารี​เมฆา กระนั้น​บน​ร่าง​ก็​ยังมี​เส้นด้าย​แห่ง​ผลกรรม​สีทอง​หนา​เท่า​นิ้วมือ​ปรากฏ​เพิ่ม​มาอีก​เส้น​หนึ่ง​

ศีรษะ​ของ​หยวน​ซงที่​ถูก​ตัด​ซึ่งเดิมที​ควร​หล่น​ลงพื้น​ก็​มีรอยร้าว​ปราณ​กระบี่​ที่​ยาก​จะสังเกตเห็น​เพิ่ม​มาเส้น​หนึ่ง​

เรือน​กาย​ทั้งสองฝ่าย​แหลก​สลาย​แทบจะ​เวลา​เดียวกัน​ ต่าง​คน​ต่าง​ลาก​เส้นโค้ง​พร่างพราว​เส้น​หนึ่ง​ จากนั้น​บน​สนามรบ​ที่​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​สิบ​ลี้​ กระบี่​ของ​สอง​ฝ่าย​ก็​ปะทะ​กัน​ พายุหมุน​กระโชก​พัด​โหม​แรง​ เฉิน​ผิง​อัน​กระเด็น​ออก​ไป​อีกครั้ง​ แผ่น​หลัง​กระแทก​ทะลุทะลวง​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ที่​ก่อนหน้านี้​ปลาย​ยอด​ถูก​ทำลาย​จน​แหลก​ไป​ก่อน​แล้ว​

แสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​พุ่ง​ลง​มาจาก​ฟ้า ปณิธาน​กระบี่​ห่อหุ้ม​สายฟ้า​สีทอง​ที่​หนา​ราว​ยอดเขา​เอาไว้​เส้น​หนึ่ง​ พริบตา​นั้น​ก็​ซัด​โจมตี​ภูเขา​ทั้ง​ลูก​จน​แหลก​ยับ​ บน​พื้นดิน​ปรากฏ​เป็น​หลุม​ขนาดใหญ่​

หยวน​ซงลอยตัว​อยู่​กลางอากาศ​ แทง​ไม่โดน​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ หยวน​ซงจึงขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ เรือน​กาย​จางหาย​ไป​อีกครั้ง​ มอง​ดูเหมือน​เป็นการ​ควง​กระบี่​อย่าง​ง่ายๆ​ ทว่า​ฟ้าดิน​กลับ​มีเส้น​ยาว​เปลวเพลิง​ปรากฏ​ขึ้น​มาพร้อมกับ​วิถี​โคจร​ทางน้ำ​เส้น​หนึ่ง​ แสงกระบี่​สอง​เส้น​พุ่ง​มารวดเร็ว​ราว​สาย​ฟ้าแลบ​ ในที่สุด​ต่าง​ฝ่าย​ก็​ต่าง​เชื่อม​หัว​เชื่อม​หาง​ติดกัน​ กลายเป็น​วงกลม​วง​หนึ่ง​ หยวน​ซงยก​มือขึ้น​อีกครั้ง​ แสงกระบี่​ที่​เหมือน​วงกลม​สอง​วง​เริ่ม​มีม่าน​น้ำ​ม่าน​เปลวเพลิง​แผ่​ลาม​ออกมา​ สุดท้าย​หลอม​รวมกัน​อยู่​ใน​หนึ่ง​เตา​ ถึงกับ​ผสาน​มหา​มรรคา​สอง​เส้น​ไว้​ด้วยกัน​ น้ำ​และ​ไฟเคียงคู่​อยู่​ด้วยกัน​ ใน​ไฟมีน้ำฝน​ เปลวเพลิง​โชติช่วง​ร้อนแรง​เผาไหม้​อยู่​ท่ามกลาง​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​

สนามรบ​พัน​ลี้​ แผ่นดิน​แตกแยก​ ลาวา​เดือด​ปุด​ๆ จาก​ทั่ว​ทุก​มุม สาย​ฟ้าแลบ​ปลาบ​สลับ​ถัก​ทอ​

คน​ชุด​เขียว​ถูก​กระบี่​ของ​หยวน​ซงฟัน​แสกหน้า​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​หล่น​กระแทก​ลง​บน​พื้น​อย่าง​แรง​จน​แผ่นดิน​ยุบ​เว้า​ลง​ไป​เป็น​หลุม​

ถึงอย่างไร​ขอบเขต​สิบ​สี่ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เป็น​มรรค​กถา​ที่​ยืม​มาจาก​ลู่​เฉิน​ชั่วคราว​ ไม่ว่า​จะเป็นการ​หล่อหลอม​ขัดเกลา​ของ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​หรือ​ระดับความสูง​บน​วิถี​กระบี่​ของ​ตัวเอง​ก็​ล้วน​ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่บริสุทธิ์​ตาม​ความหมาย​ที่​แท้จริง​

อีก​ทั้ง​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​เป็น​ฝ่าย​สละ​ขอบเขต​ไร้​ผู้คน​ส่วน​นั้น​ทิ้ง​ไป​ด้วยตัวเอง​คล้าย​ตั้งใจ​คล้าย​ไม่ได้​เจตนา​

เป็นเหตุให้​ทุกครั้งที่​คม​กระบี่​ปะทะ​กัน​บน​สนามรบ​ล้วน​เป็น​ปีศาจ​ใหญ่​หยวน​ซงที่​บีบคั้น​ทุก​ก้าวย่าง​ เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​เป็น​ฝ่าย​เสียเปรียบ​มากกว่า​ ถอย​แล้ว​ถอย​อีก​ ฝุ่นตลบ​คละคลุ้ง​อยู่​ตลอด​

เวลา​สั้น​ๆ เพียง​ไม่กี่​ชั่ว​ลมหายใจ​ แสงกระบี่​ก็​เปล่ง​วาบ​ไป​แล้ว​ถึงร้อย​กว่า​ครั้ง​ เป็นเหตุให้​ฟ้าดิน​ทั่ว​อาณาเขต​พัน​ลี้​มีเม็ดทราย​เหลือง​ซัด​โหม​มืดฟ้ามัวดิน​

กระบี่จงมา

กระบี่จงมา

Score 10
Status: Completed

อ่านนิยาย กระบี่จงมา 1 – 400 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


” หนึ่งโลกธาตุขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความลี้ลับมหัศจรรย์  ใจกลางฟ้าดิน เคยมีปัญญาชนผู้หนึ่งใช้หนึ่งกระบี่ฟาดฟันให้เกิดน้ำตกธารสวรรค์ คือความภาคภูมิใจสูงสุดของโลกมนุษย์  หน้าผาทะเลบูรพา มีนักพรตไร้นามผู้หนึ่งที่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด หวังเพียงให้ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า  แดนสุขาวดีปัจฉิมทิศ มีหลวงจีนเฒ่าที่ชอบเล่าเรื่องราวให้ผู้คนฟัง เลี้ยงมังกรสวรรค์ไว้เก้าตัว พื้นที่กันดารแดนใต้ มีจิตรกรตาบอดควบคุมหุ่นเชิดเกราะทองสูงเท่าเนินเขาให้เคลื่อนย้ายภูเขาใหญ่หนึ่งแสนลูก ปูแผ่เป็นภาพลายปัก
เมื่อวันหนึ่งเด็กหนุ่มยากจนที่เติบโตทางทิศเหนือได้พบกับเซียนที่เหนือศีรษะมีกระบี่บินนับพันนับหมื่นประดุจฝูงตั๊กแตน “

เขาจึงอยากจะไปเห็นปัญญาชนคนนั้น เห็นคลื่นยักษ์ที่โถมตัวเทียมฟ้าของทะเลบูรพา

เห็นทะเลทรายสีเหลืองทองกว้างไกลนับหมื่นลี้ของแดนประจิม

และอยากไปเห็นภูเขาลูกโอฬารของแดนกันดารทางใต้ที่นักเล่านิทานเอ่ยถึงกับตาตัวเอง

ดังนั้น ในที่สุดวันหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงสะพายกระบี่ไม้พาดหลัง มุ่งหน้าไปทางทิศใต้

–ข้ามีนามว่าเฉินผิงอัน ผิงอันที่แปลว่าสงบสุข สันติ ข้าคือมือกระบี่คนหนึ่ง–

Options

not work with dark mode
Reset