ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 228 ลมพัด

ตอนที่ 228 ลมพัด

 

 

–มุมมองบุคคลที่สาม–

แวนโดเลีย เมืองหลวง: แวนโดล่า

「อิซาลิตุส…… และคาเชการ์ดด้วยเรอะ!?」

「มันถูกฝังใต้ภูเขาเถ้าถ่านที่สูงกว่าคนเราเลยเข้าใกล้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!」

「ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยเหรอนี่!? ฉันไม่สนว่าใคร แค่เอาคนนั้นมาที่นี่เพื่อให้คนนั้นบอกสถานการณ์ฉันได้」

「คือว่า ไม่มีใครจากเมืองหนีได้…… เรามีแค่คำให้การของพ่อค้าเร่ที่ดูอะไรที่เกิดขึ้นจากไกลๆ」

คนที่เข้ารวมการประชุมของคนแวนโดเลียล้อมแผนที่หน้าตาตะลึง

เมืองบนแผนที่พองด้วยหมึกตอนพวกเขาฟังรายงานจับใจความไม่ได้

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าไฟปะทุจากภูเขาดาร์ด อย่างแรกที่พวกเขากังวลนั้นเกี่ยวกับเหล่าทหารที่หนึ่งและสองที่ป้องกันการโจมตีอยู่ที่ตีนเขา

แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาเริ่มได้ยินรายงานเกี่ยวกับความเสียหายอย่างหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

「เคล่าด้วย……?」

「อูรันเดเมืองที่มี 20,000 คน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่รอดชีวิตเลยเหรอ!?」

「เมืองและคนไม่สำคัญตอนนี้! เกิดอะไรขึ้นกับกองทัพที่สู้อยู่ตรงพรมแดนเล่า!?」

「แกโง่หรือไงกันวะ? อูรันเดที่แม่งห่างไป 30 กิโลเมตรยังตายหมด มันแน่นอนว่าไม่มีคนรอดชีวิตเมื่อเขาสู้กันตรงตีนเขา!」

「พูดอะไรวะ!? ไอ้ขี้แพ้!」

「หุบปากเลยไอ้ไร้ควาสามารถเดี๋ยวกูจะชำระบาปมึงเสีย!」

ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มตีกัน

「พวกแกจะหยุดมั้ยวะไอ้โง่สองคน!? ……ถ้าเราคิดเกี่ยวกับมันในหลักความเป็นจริงกองทัพน่าจะสูญหายไปและกองทัพชั่วคราวที่แต่งไปเป็นกำลังเสริมก็น่าจะไปหายไปด้วย…… เราเสียกองทัพส่วนใหญ่เราหมดแล้ว」

ทุกคนห่อไหล่ผิดหวัง

แวนโดเลียสูญเสียกำลังเนื่องจากกองทัพนั้นตั้งโดยใส่หน่วยฝีมือฉมังคู่กับคนรอดชีวิตเหล่าสาม

「ต-แต่กองกำลังอัลแตร์ก็ควรจะถูกกวาดล้างไปด้วยเหมือนกัน ถ้าเรารีบจัดระเบียบกองทัพ……」

「ไม่ได้ อัลแตร์ไม่เคยสู้โดยใช้ทหารฝีมือฉมังพวกเขาแค่ให้ชาวนาพุ่งใส่เราด้วยหอก…… พวกเขาน่าจะรวมกองกำลังได้เร็วกว่าเราทำ」

「นี่ควรค่อนข้างเป็นวิกฤติกับพวกเขาแล้ว นายคิดว่าพวกเขาจะรุกรานต่อมั้ย?」

ทุกคนคิดและข้อสรุปคือ ‘ใช่’

「พวกเขามันเพี้ยน อะไรก็เกิดขึ้นได้」

「พวกเขาน่าจะไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ แต่มันเป็นไปได้ที่พวกเขาอ้อมไปเหนือหรือใต้เมื่อภูเขาเงียบแล้ว」

「นอกจากนี้โกลเนียก็ยืนยึดหลักเพื่อบางอย่างใหญ่โต ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะท่วมมาจากทางเหนือก็……」

คนที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางตบมือ

「อย่างแรกเราควรรวมทหารเข้าด้วยกันก่อนเราทำอะไรได้ เราจะเกณฑ์คนแน่นอน แต่เราก็เอาผู้หญิงผู้ใหญ่ด้วย เกณฑ์พลเมืองทุกคนจาก 16 ถึง 45」

「เราไม่มีทางเลือกสินะ」

「ถ้าเราผ่านสถานการณ์นี้ไปไม่ได้ประเทศจะจบเห่」

หลังจากถึงข้อสรุปสายตาทุกคนมองที่จุดเดียว

คนที่กลายเป็นคนที่ดูแลการปรึกษาจนถึงตอนนี้นิ่ง แต่เป้าหมายพวกเขาครั้งนี่คือชายแก่ที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่การประชุมเริ่ม

「ม-มีอะไร……?」

「สหายเบลเลส  กองทัพ 15 000 คนที่ส่งไปโกลโดเนียมีค่ายิงกว่าอัญมณี สถานการณ์จะต่างกันถ้าเรามีพวกเขาพร้อมใช้ตอนนี้」

ชางแก่เอียงไปข้างหลังจากแรงกดดันที่เขารู้สึก แต่พยายามกลับขึ้นมานำการคุยโดยการตะโกนอย่างดัง

「กูจะรู้ได้ยังไงวะว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้นกับดาร์ด!? มันเป็นแผนที่ดีที่สุดที่ทำได้ตอนนั้น!!」

「แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาหายไปในเถ้าถ่านไง! พวกเขาเสือกไปสู้ศึกไร้ความหมาย ไม่เหมือนกองทัพที่สู้กับอัลแตร์ และหนำซ้ำยังทำให้โกลโดเนียเป็นศัตรูเราอีก」

「ต-แต่โกลโดเนียมองพวกเขาเป็นทหารหนีทัพนี่……」

「ไม่ใช่พวกแม่งรุกลึกเข้าดินแดนเราแล้วเพราะแม่งไม่เชื่อหรือไงกันวะ!?」

ปัญหาที่สุดท้ายแก้ไม่ได้ของการประชุมคนก่อนที่ภูเขาดาร์ดพ่นไฟคือจะรับมือกับกองทัพฮาร์ดเลตต์ที่เคลื่อนที่มาจากทางใต้อย่างไร

เพราะกองกำลังหลักทุ่มเทอยู่กับการสู้อัลแตร์ พวกเขาหาทหารมาแบ่งไม่ได้สักคนเพื่อป้องกันการโจมตีจากเขา

ควรจะไม่มีทางเลือกนอกจากใช้แผนเคลื่อนทัพทหารชาวนาหลายหมื่นเพื่อซื้อเวลา

「น-นั่นน…… อ-อืม มันถูกเห็นด้วยโดยตัวแทนผู้คน ฉันไม่ได้รับผิดชอบคนเดียว」

คนกลางกระแทกกระดาษหนึ่งแผ่นหน้าชายแก่

「มันเขียนไว้ว่าตัวแทนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจของเบลเลส มีอะไรจะพูดมั้ย?」

ความสุภาพหายไปจากน้ำเสียงคนกลาง

คนที่อยู่ทั้งหมดมีหน้าตามืดมน

「ป-เป็นไปไม่ได้! ฉันได้การตกลงจากตัวแทนอย่างแน่นอน! ฉันถูกบอกว่าทำเหมือนที่ฉันอยากทำได้เลย!」

「ไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการหรือการเตือนมาหาเราเลย ดังนั้นเราเชื่อแกได้ยังไง!? ทั้งหมดที่แกมีเป็นแค่กระดาษชิ้นเดียว…… นั่นแหละหมดแล้ว」

ชายแก่รับเอกสารหน้าเขาและอ่านมัน

「ไม่มีการเห็นด้วยจากตัวแทนคนสำหรับการรุกรานโกลโดเนีย มันเป็นการตัดสินใจโดยผู้แทนผู้คนเบลเลส…… แกพูดเรอะ? ช่างไร้สาระ! ตัวแทน ตัวแทน!」

คนของการประชุมจับชายแก่และกดเขาลงขณะเขาซีดและพยายามวิ่งหนี

「ยาม เอาเขาไป! เขาเป็นศัตรูขอผู้คน!」

「ไม่ใช่แล้วโว้ย! ในตอนนั้นกูได้การตกลงจากตัวแทนแล้วแน่นอน! ตัวแทนนนนนนนน!!」

ชายแก่ร้องดังไปทิศทางห้องทำงานตัวแทนแม้ขาเขาถูกจับโดยยามและดึงไป

「หนึ่งในมะเร็งของแวนโดเลียหายไปแล้ว….. แต่ชาติเรายังเกือบไม่รอดด้วยโรคภัยร้ายแรง ฉันจะอยากให้สมาชิกทุกคนที่นี่ทำงานเหมือนชีวิตขึ้นอยู่กับมัน」

ในที่คนที่พยักหน้า ชายคนหนึ่งพึมพำในเสียงเบา

「เถ้าถ่าน…… จะไม่หยุด」

เถ้าถ่านลอยหล่นไม่จบสิ้นเป็นกองหิมะไม่ละลาย

 

 

สหพันธรัฐโอลก้า ศึกล้อมเมืองสีขาว แคมป์กองทัพจักรวรรดิ

「ถ้าอย่างนั้นนี่เป็นเมืองสีขาว…… เป็นเมืองที่สวยอะไรเช่นนี้」

แซพเนสพูดเบาๆขณะเขามองดูกำแพงปราสาทสีขาวครีมระหว่างข้ามแม่น้ำเทียรี่เหนือและลงไปอยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองสีขาว

「ฉันได้ยินมาว่าเมืองหลวงการ์แลนด์มีคนเยอะกว่า…… แต่ไม่มีอะไรเป็นคู่แข่งกำแพงมโหฬารนี้ได้」

ลูกน้องเขาก็ตั้งใจมองกำแพง

ไม่มีอะไรอื่นขวางทางแซพเนสหลังจากเขากำจัดกองกำลังหลักสหพันธรัฐในศึกใกล้ดินแดนอัลเบนและในที่สุดเขาก็มาเมืองสีขาวได้อย่างปลอดภัย

ในทางกลับกัน กองเรือนำโดยเซกริดเอาชนะกองเรือแม่น้ำสหพันธรัฐแบบนำโด่งและได้รับความเหนือกว่าทางน้ำ

มันกลายเป็นเป็นไปได้ที่จักรวรรดิจะลงพื้นบนท่าทางเหนือของแม่น้ำได้อย่างอิสระหลังจากได้รับความเหนือกว่าบนน้ำ ทำให้พวกเขาดันกองกำลังสหพันธรัฐที่ต่อต้านอย่างสิ้นหวังในบริเวณถอยไปและล้อมเมืองสีขาวจากทุกด้านยกเว้นตะวันออก

「งั้นพวกเขาจะไม่ทิ้งเมืองหลวงเหรอ?」

「ใช่ครับ จากนักโทษสงคราม มันดูเหมือนพวกเขามีเจตนาสู้จนตาย จักรพรรดิจัตแลนด์ที่สองก็ยังอยู่ในเมืองสีขาวด้วย」

แซพเนสยิ้มพออกพอใจ

「นั่นดี นั่นหมายถึงศึกสรุปได้เมื่อเมืองสีขาวพ่ายแพ้」

สหพันธรัฐโอลก้าเป็นสถานที่ใหญ่ ใหญ่มากกว่าจักรวรรดิในเรื่องของบริเวณอย่างเดียวเยอะแม้ว่ามีหลายที่ที่อยู่อาศัยไม่ได้

「ไม่สำคัญว่ากองทัพเราใหญ่แค่ไหน เราค้นหาดินแดนทุกซอกทุกมุมของสหพันธรัฐไม่ได้ เราต้องให้พวกเขายอมแพ้」

มันปลอดภัยถ้าพูดว่ากองทัพจักรวรรดิที่เดินหน้าอยู่ได้เปรียบอย่างท่วมท้นด้วยการควบคุมท่าน้ำเหนือและใต้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ไปถึงเขตทางเหนือไกลๆข้ามแม่น้ำไปและมันต้องการเป็นปีๆเพื่อจะไล่ถ้าสหพันธรัฐหนีไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

「ถ้าเราขยี้เมืองสีขาวเสีย เราอาจสามารถจบศึกได้ในเดือนนี้」

แซพเนสหัวเราะอย่างเต็มอกกับข้อเสนอลูกน้องเขา

「ถ้าเราทำนั่นได้ เราจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่จากพระองค์ องค์จักรพรรดิ นายและฉันจะถูกให้ความบันเทิงด้วยสาวซิง 100 คน」

หลังจากหัวเราะเบาๆเร็วๆ ความจริงจังกลับเข้าหน้าแซพเนส

「กำแพงขนาดยักษ์…… มันอาจตีไม่ได้ถ้ากองทัพฉันอยู่ในยุคหินที่ปืนใหญ่ไม่มีตัวตนและเราจะทำอะไรไม่ได้สักอย่างนอกจากภาวนา ยังไงก็ตามตอนนี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากเป้าใหญ่」

「ท่านพูดถูกต้องที่สุดท่านผู้นำ มาเรียงปืนใหญ่ทั้งหมดที่เรามีและเป่ากำแพงลงเถอะ」

แซพเนสไม่ได้มีแค่ปืนใหญ่จักรวรรดิอย่างเดียวเท่านั้น เขาก็ยังมีปืนใหญ่มากมายที่ยึดได้จากสหพันธรัฐหลังจากเปิดศึกกันนับครั้งไม่ถ้วนด้วย

ถ้าเขารวมมันละยิงมันทั้งหมดทีเดียว มันคิดไม่ได้ว่ากำแพงหินที่ไม่ว่าจะสูงและทนแค่ไหนจะทนแรงกระแทกได้ไหว

「มาทำการโจมตีแรกก่อนเถอะ ให้ทหารทาสทั้งหมดยกเว้นพลปืนใหญ่โจมตีด้วยทุกอย่างที่มี สงครามจะจบถ้าเราตีเมืองสีขาวแตกได้ มันอาจทำให้พระองค์ไม่พอใจถ้าเราทำพลาดและปล่อยอะไรสักอย่างตั้งอยู่」

ทหารทาสที่รวมกันจากหลายประเทศและคนที่ต่อต้านจักรวรรดิถูกคิดว่าทิ้งได้ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายถึงพวกเขาจะสู้เต็มที่แม้ว่าถูกขู่ด้วยปืนธนูจากข้างหลัง

ซึ่งนั่นคือทำไมจักรพรรดิประกาศว่าทหารทาสที่รอดศึกสองครั้งจะถูกดูแลพร้อมครอบครัวให้เป็นพลเมืองธรรมดา

ไม่มีใครอยากทำเหมือนทาสเป็นพลเมืองธรรมดา

แต่จักรพรรดิเองประกาศดังนั้นมันเปลี่ยนการตัดสินใจโดยไม่มีอำนาจเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นความเชื่อใจจักรพรรดิได้ไหมจะกลายเป็นคำถาม

「เราจะให้พวกเขาหลายคนตายในการต่อสู้สุดท้ายนี่แหละ」

「เหลือรอดไว้ 10% หรือ 20% ควรพอแล้ว」

การใช้ทหารทาสไม่ได้เป็นเรื่องน่าเจ็บปวดเป็นพิเศษ มันถูกสนับสนุนให้ใช้แทน

พลปืนใหญ่เรียงกันเพราะคำสั่งแซพเนส และทหารทาสเป็นหมื่นๆอัดกันรอบเมืองสีขาว

ไม่ได้มีขบวนแถวถูกกำหนดและเน้นไปกับการใช้พลังจำนวนฝ่าไปข้างหน้า

「แต่ เมืองสีขาวควรมียามเมืองมากมาย มันจะยากสำหรับทาสที่จะตีฝ่าแม้หลังกำแพงถูกทำลายลงแล้ว」

「เราจะทำให้ศัตรูเหนื่อยโดยการโจมตีด้วยจำนวนจากนั้นเอาชนะกองทัพหลักเมื่อพวกเขามาถึงนั่นได้ถูกมั้ยครับ?」

แซพเนสพยักหน้า

「ไม่มีการโจมตีสวนจากศัตรู บางทีพวกเขาทำตัวให้กลมที่ไหนสักแห่งระหว่างกลัวเหรอ?」

「ฟุ่ฟุ่ฟุ่ พวกเขา ไม่มีก่อกบฏกันเองดีว่านะ ทหารทาสจะไม่ตายถ้าพวกเขายอมแพ้」

จากนั้นลูกน้องหนึ่งคนก้าวมาข้างหน้าแล้วคุกเข่า

「ท่านจะไม่ติดต่อท่านผู้นำเซกริตเหรอ? การโจมตีของเราจะมีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าเราพึ่งการระดมยิงจากกองเรือด้วย……」

แซพเนสส่ายหัว

「มันไม่เป็นไร เรายืมกำลังกองเรือตลอดเวลาไม่ได้ เราจะทำการโจมตีแรก」

แซพเนสมีเจตนาตีเมืองสีขาวให้แตกแม้ว่าหลังพูดอย่างนั้น

「ฉันถูกเซกริตช่วยหลายครั้งในสงครามนี้ ดังนั้นฉันต้องจบศึกนี้โดยไม่มีเธอช่วย พระองค์จะหันมาสนใจฉัน」

เมืองสีขาวจะถูกล้อมเมืองโดยไม่มีกำลังเสริม

มันจะเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายป้องกันเอาชนะศึกล้อมเมืองได้โดยไม่มีความช่วยเหลือจากด้านนอก

เขาคิดถึงรางวัลแล้วที่จุดนี้

「เซกริตจะรู้ถ้าเราใช้เวลานานไป มาเริ่มทันทีที่เตรียมการเสร็จ」

แซพเนสซ่อนยิ้มมุมปากบนหน้าไม่ได้

 

 

และจากนั้น การโจมตีเริ่มต้นขึ้น

「ยิงปืนใหญ่ทั้งหมด!! สาดพวกเขาด้วยพายุลูกปืนใหญ่!」

หลังจากเสียงดังสนั่นจากการยิงปืนใหญ่พร้อมกันดังขึ้น ควันที่ขึ้นมาหุ้มพลปืนใหญ่

มีควันพอทำให้มันดูเหมือนเกิดการระเบิดที่แคมป์จักรวรรดิ

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกกลมเหล็กปะทะทำแพงปราสาทเมืองสีขาว ทำให้หินที่สวยงามร้าวและทำให้ส่วนหนึ่งของกำแพงพังทลายเป็นชิ้นๆ ทหารจักรวรรดิมั่นใจในชัยชนะ

「ยิงอีกชุดนึงกันไว้ก่อนแล้วให้ทหารทาสบุกเข้าไป ยิง!」

พลปืนใหญ่รอควันหายไปก่อนยิงชุดที่สอง เชื่อว่ากำแพงจะเป็นผุยผงแล้ว

「บุก!!」

ทหารทาสเริ่มวิ่งพร้อมกัน พวกเขาคาดหวังว่าจะเจอยามเมืองสีขาวระหว่างผ่านกำแพงที่ถูกทำลายแต่…….

「อะไร-!?」

กำแพงเมืองไม่ได้พังทลายหลังจากควันหายไป

ภายนอกกำแพงปราสาทที่สะอาดมันร้าวแน่นอน

อย่างไรก็ตามการยิงลูกปืนใหญ่ใส่เป็นร้อยลูกแค่เกาผิวของกำแพงและเปิดให้เห็นกำแพงหินไม่ได้ตกแต่งอยู่ข้างใต้

มากกว่านั้น มีความล่าช้าเล็กน้อยในการยิงปืนใหญ่ที่จุดที่สมควรเป็นจุดอ่อน – ฐาน – แต่กระสุนกระเด้งออกและทำเสียงเหล็กแหลมๆดังกับการกระแทกเหมือนดาบสองเล่มปะทะกัน

พวกเขาเพิ่มฐานเหล็กเหรอ?

「ภายนอกมันแค่ตกแต่ง…… นั่นเป็นการป้องกันจริงของเมืองสีขาว!」

กำแพงพราสาทหินทื่อๆไม่ได้มีความสง่าอยู่เลย

แต่ในสายตาของคนโจมตี มันมั่นคงและทนกว่ากำแพงสีขาวครีมสวยๆ

ปืนใหญ่ยิงอีกครั้งแต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่มีผลกับผิว

มันเป็นกำแพงหิน แม้อย่างนั้นมันไม่แตกเยอะ

「มันไม่ใช่แค่กำแพงหิน!」

ความสบายใจในตาผู้บัญชาการพลปืนใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นกังวล

「……กำแแพงเมืองสีขาวถูกรู้ว่ามีสามชั้น…… นั่นคือพวกมันทั้งหมดสามชั้นแล้วเหรอ?」

พลปืนใหญ่ระดมยิงไร้ความหมายซ้ำๆระหว่างทหารทาสหยุดเคลื่อนไหวเลย

พวกเขาสมควรวิ่งไปในเมืองผ่านรูที่เปิดโดยปืนใหญ่ แต่กำแพงไม่ได้เสียหายมากขนาดนั้นด้วยซ้ำ

ไม่มีใครคาดหวังให้พวกเขาปีนกำแพงสูง

ณ ทันใดนั้นการเปลี่ยนเกิดขึ้นบนฝั่งเมืองสีขาว

ส่วนบนของกำแพงเปิดออก

「หน้าต่างเฝ้าระวังเหรอ? แต่มันแค่อยู่บนฝั่งเดียวของกำแพง」

เมื่อทหารทาสมองขึ้นไปบนท้องฟ้า  มันมืด

「อา…… อา……」

ลูกธนูนับไม่ถ้วนสาดลงไป มีลูกธนูพอปิดดวงอาทิตย์และทำให้สงสัยว่ามียามเมืองคุ้มกันกำแพงอยู่กี่คน

「ว้า!」

「กย๊าาาา!!」

「ฮิกกย๊าาา!」

ลูกธนูยิงลงไปจากกำแพงสูงเจาะเกราะหยาบของทหารทาสได้อย่างง่ายดายและเปลี่ยนพวกเขาเป็นศพที่ดูแปลก

「ท-ทำอะไรน่ะ!? เล็งไปจุดบนสุด หยุดธนู!」

พลปืนใหญ่ตื่นตกใจและย้ายการเล็งไปส่วนบนของกำแพงก่อนเขายิงได้ด้วยซ้ำ ส่วนกลางของกำแพงเปิดและปืนใหญ่นับไม่ถ้วนยื่นออกมา

「ป-ปืนใหญ่……」

「อุว้าาาา!!」

ควันตามมาด้วยเสียงดังตูมตอนปืนใหญ่ยิงจากฝั่งจักรวรรดิและฝั่งสหพันธรัฐ

ในเรื่องของจำนวน สหพันธรัฐมีปืนใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของจักรวรรดิ

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์มันเกิดขึ้นฝ่ายเดียว

ปืนใหญ่สหพันธรัฐถูกปกป้องด้วยกำแพงและมีแค่ไม่กี่กระบอกที่ลูกปืนใหญ่ลอยไปช่องเปิดเล็กๆและสร้างความเสียหาย

ระหว่างนั้น หน่วยปืนใหญ่จักรวรรดิถูกเปิดเผยให้ตกเป็นเหยื่อของการยิงไร้ปรานีของหน่วยสหพันธรัฐ ที่มีความได้เปรียบอยู่สูงกว่า และผลลัพธ์ ปืนใหญ่จักรวรรดิถูกยิงระเบิดสิ้นและทำลายตามๆกันทีละกระบอก

ทหารทาสถูกลูกธนูกำจัดโดยไม่รู้ว่าทำอะไรดีระหว่างหน่วยปืนใหญ่ยิงต่อไม่ได้ในท้ายที่สุดและถูกบังคับให้ถอยทัพหลังจากทิ้งปืนใหญ่

พร้อมกับการกระจายของพลปืนใหญ่หน่วยปืนใหญ่สหพันธรัฐหันไปเล็งทหารทาสที่อยู่ข้างหน้าและหน้าประตูปราสาทเปลี่ยนบริเวณเป็นนรกแห่งเลือด

กำแพงสีขาวครีมแตกและให้เห็นกำแพงสีเทาแต่ไม่นานก็ถูกย้อมในสีแดงด้วยเลือดของทหารทาส

การสังหารหมู่เกิดขึ้นต่อไปตลอดเวลาจนในที่สุดแก้วเหล้าที่แซพเนสเตรียมพร้อมความคาดหวังถึงชัยชนะหล่นไปที่พื้นและคำสั่งถอยทัพถูกมอบออกไป

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

ดินแดนฮาร์ดเลตต์ เขตใต้

หลังจากออกจากแวนโดเลีย เราไปทางเหนือเรื่อยๆกับเบเซกและกองทัพเขา

การเดินทัพไม่ค่อยน่าพอใจที่เราต้องอาบเถ้าถ่านที่ตกลงมาเรื่อยๆไม่หยุด

แม้ว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาแล้วเมื่อเราไปถึงดินแดนผม

「ถึงยังไง ทุกคนยังยับเยินอยู่เลย…… มันอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่พวกเขาไม่มีดาบหรือเกราะ」

「……ถ้าเรารววบรวมอุปกรณ์ทั้งหมดเราน่าจะเอาไปแลกเงินได้เยอะ」

ของเก็บจากสงครามที่ได้ระหว่างป้องกันมอลต์ถูกส่งไปที่ราเฟน แต่มันอาจไม่พอเป็นรางวัลทหาร

「พวกเขาก็ดูทรงน่าสงสารอยู่นั่นด้วย」

ผมมองสามเกลอเคานต์โมนาชิและคนอื่น

「อะว้าว้า…… ใครจะคิดล่ะว่าภูเขาจะทำแบบนี้……」

「ยัง…… อย่างเพิ่งยอมแพ้ คำนวนกำไรต่อวัน!」

「ฉันมีลูกสาวเจ็ดคนอยู่ที่บ้าน มากเท่านี้มันไม่พอ!」

พวกเขาน่าจะคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมเมื่อพวกเขาตัดสินใจไปยืมเงินออกศึก

พวกเขาต้องคาดหวังการชดใช้หนี้และค่าใช้จ่ายสงครามด้วยของเก็บในสงคราม

อย่างไรก็ตามทุกอย่างลงไปท่อน้ำทิ้งหมดด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากภูเขาดาร์ด ไม่เพียงแค่เสียของเก็บสงครามไป แต่อุปกรณ์พวกเขาเองด้วย

อดอล์ฟจะเปลี่ยนเป็นฟ้าเมื่อเขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับของของผมแต่ผมนึกภาพว่าคนพวกนั้นจะทำอะไรดีไม่ได้เลย

「ที่สำคัญกว่านั้น มันดูเหมือนถึงขีดจำกัดพี่แล้ว」

「ได้ หนูเข้าใจ」

ไมล่ามาข้างผมและถอนหายใจ

ผมใส่เสื้อผ้าธรรมดาตัวเดียวระหว่างโยนเกราะทิ้ง

และตอที่หว่างขาแข็งโด่…… ไม่ กางเกงมันขาดแล้ว

มันเป็นผลจากอะดรีนาลีนของการเสี่ยงชีวิตหนีแและความจริงว่าผมโอบกอดสาวคนไหนไม่ได้เลยหลังจากตัวเปื้อนเถ้าถ่าน

เมื่อคิดถึงนั่นทั้งหมด เอ็นผมจะระเบิดแล้ว

「พี่เดินไปทั่วดูเป็นแบบนั้นไม่ได้ไม่งั้นมันจะมีผลกับชื่อเสียง หนูจะช่วยพี่ ดังนั้นไปที่รถม้าด้วย」

ไมล่าจับมือผมเดินและนำผมไปข้างในรถม้า

พูดถึงคนดูแลชวาร์ซยืนกรานว่าตูดเขาไหม้แต่เขาเดินไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องแบกอะไรขึ้นหลัง

เขาค่อนข้างกังวลที่ขนคอถูกตัดออกและดูโง่ๆ

ผมได้ยินผู้หญิงบางคนส่งเสียงเอะอะเมื่อคืน

ผมว่าชวาร์ซอัดอั้นหลังจากกลับมาจากก้นเหวแห่งความตาย มันทำให้ผมกังวลเกี่ยวกับมดลูกสาวนั้น

「อะแฮ่ม เอาเลย」

มันดูเหมือนการเตรียมการมันเสร็จแล้วระหว่างผมคิดถึงม้าลามกนั่น

ไมล่านำผ้าห่มไปในรถม้าและกางมันลง จากนั้นอ้าขาเล็กน้อย

「ทำให้พี่ผ่อนคลายเหรอ? หนูเพียงแค่อยากได้ ไม่ใช่เหรอ?」

ไม่ล่าหันหัวไปด้านข้างอย่างเขิน

ช่างน่ารัก

ผมจับเข่าเธอ แหวกขาเธอออกเท่าที่ผมแหวกได้เพื่อที่ผมเข้าไประหว่างกลางได้

ผมไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเพราะเอ็นผมทะลุกางเกงและยื่นออกมาแแล้ว

「เธอหยดหนืดก่อนถูกจับอีก」

「หยาบคายอ่ะ…… หนูไม่ชอบเลย…….」

ผมลูบแก้มไมล่าและเอาหน้าไปที่คอเธอ

กลิ่นผู้หญิงทำให้ผมตื่นเต้นขึ้นอีกและมันทำให้เจี๊ยวโด่แข็ง

ผมจะเอาการลูบไล้ไว้ทีหลังและใส่มันเข้าไปตอนนี้

มือเราประสานเข้าด้วยกันนิ้วพันเข้าหากันระหว่างผมโฉบผ่านหน้าเพื่อจูบเบาๆก่อนดันสะโพกไปข้างหน้า

「อา มันเข้าไปแล้ว……」

「เข้าไปล่ะนะ」

มันเป็นเมื่อตอนที่ปลายเอ็นผมกำลังจะมุดรูไมล่า

「ไม่ยุติธรรม」

 ผ้าปิดด้านหลังพับเปิดอย่างไม่อาย

ผู้ปรากฏคืออิริจิน่า

ซีเลียต้องแอบปล่อยข้อมูลให้เธอ เพราะเธอแอบเกาะหลังอิริจิน่ามาด้วย

ปรกติแล้วเธอจะมาด้วยตัวเองแต่น่าจะรู้สึกด้อยค่าอยู่ตอนนี้

「อิริจิน่า…… เห็นหัวอกกันมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ?」

「เธอไม่ได้เป็นคนเดียวเท่านั้นที่อยากได้น้ำแรกหลังจากสู้เสร็จ! มาตัดสินใจว่าใครได้ก่อนให้ยุติธรรม!!」

อย่าพูดมันดังสิ

ทุกกคนกำลังมองเราถ้าเธอตะโกนระหว่างผ้าด้านหลังเปิด

ผมเดาว่าเราทำไม่ได้แล้ว

「ตัดสินใจยังไงก็ได้ที่อยากทำ…… แต่เร็วๆหน่อยก่อนเอ็นพี่ระเบิด」

「อุมุ!!」

อิริจิน่า, ไมล่า, ซีเลีย, และลูน่าที่มาผสมจากไหนก็ไม่รู้สู้กัน

「งัดข้อ…… ฉันคิดว่ามันจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง แต่ไม่ควรมีแผนลับถ้ามันเป็นอิริจิน่า」

มันดูเหมือนคนแรกจะเป็นอิริจิน่า

「ซอร์ย่าาาา!」

「โอ๊ยย! ข-แขนๆหักแล้ว!」

ไมล่าร้องดัง

「ฮึ่กก๊าาา!」

「กย๊าาาาา!!」

ลูน่าร้องดัง

「ฮึ่นบ่ะ!」

「อิริจิน่าซังได้โปรดหยุดเหอะ! มันงอไปที่แปลกๆแล้ว!!」

ซีเลียตะโกน

ผมรู้ว่าจะเป็นอิริจิน่า

มันไม่ยุติธรรมที่เธองัดข้อกับสาวๆ

「มันเป็นหนู」

「ใช่พี่รู้」

มีหลายอย่างที่ผมอยากพูด แต่เอ็นผมอ้อนวอนขอผู้หญิง

นอกจากนี้มันไม่เหมือนผมมีอะไรบ่นกับอิริจิน่า

เธอก็เป็นหนึ่งในสาวน่ารักของผม

เรายืนกันในรถม้าไม่ได้เราเลยลงไปคุกเข่าแทน

อิริจิน่าค่อนข้างสูง เลยไม่มีความสูงต่างกันมากระหว่างเรา

เมื่อผมโอบแขนรอบเธอ ผมรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเธอ

「หนูไม่เหมือนผู้หญิงมากเลย…… ตัวก็ใหญ่หยาบก็หยาบ」

「แน่นอนหนูมีกล้าม แต่นั่นทำให้หนูดูน่าหลงใหล」

ผมแก้ผ้าอิริจิน่าออกและจากนั้นเปลือยเองด้วย

ผมลูบกล้ามท้องแน่นเบาๆระหว่างผมทำ

「หนูคือผู้หญิงมหัศจรรย์และนี่เป็นข้อพิสูจน์」

ผมจับนำมือเธอนำไปสู่เอ็นของผม

มันควรเห็นได้ชัดกับเธอว่าผู้ชายกระปรี้กระเป่าแค่ไหนเมื่อเธอเห็นเอ็นแข็งขนาดนี้

「มันใหญ่และหนา…… เหมือนหนูเลย!」

เสี้ยววินาทีหนึ่ง ความคิดว่าบางอย่างงอกออกมาจากหว่างขาอิริจิน่าวิ่งผ่านใจผม

ผมส่ายหัวเพื่อไล่ความเพ้อเจ้อโง่ๆออกไป

「นี่ มาสร้างรักกัน」

เรานอนลงบนผ้าปูในแขนกันและกันตอนเราจูบกันอย่างเร่าร้อน อิริจิน่ารัดแขนขารอบผมแน่นระหว่างผมโอบกอดเธอแรง

มันเป็นการโอบกอดที่รุนแรงที่ทำให้สาวคนอื่นร้องเสียงแหลมในความเจ็บ

「「ปุฮ่า」」

เราแยกปากกันและอิริจิน่าแหวกจิ๊ออก

ผมไม่พูดอะไรและเข้าหารูด้วยเอ็นที่ขยายตัว

「อิริจิน่า…… พี่แรงนิดนึง ไม่ดิ พี่แรงสุดๆไปเลยได้มั้ย? พี่รู้สึกเงี่ยนจัดตอนนี้」

「แน่นอน ตัวหนูแกร่ง! มันไม่พังง่ายๆ!」

ผมมั่นใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้รับเซ็กส์แรงได้ เธอไม่ได้แค่ตัวใหญ่แต่กล้ามโตด้วย

ถ้าผมทำเหมือนกันกับนนน่าหรือเมลผมจะทำเธอพังทันทีแน่นอน

「ชอบคุณ」

ผมจับสะโพกอิริจิน่าและสอดใส่ตัวเองข้างในช่องเปิด

ผมไม่ได้ใช้ท่ามิชชันนารีปรกติ ผมยกสะโพกเธอและแทงกดลงไปแทน

「ฮึ่ม!」

「อุ่กก!!」

ผมใส่ทั้งความยาวได้แบบเร็วๆ

อิริจิน่าเป็นคนเดียวเท่านั้นที่รับเอ็นถึงโคนได้โดยไม่ต้องใช้มดลูกเธอ

「ม-มันลึกมาก! สุดยอด!」

「ใช่ มันแน่นและเสียวมากเลย」

ขนาดจิ๊เธอคือส่วนหนึ่งของขนาดตัวและมันไม่เล็ก

ไม่ว่าอย่างไรมันขมิบรัดแรงน่าจะเพราะกล้ามเนื้อที่ฝึกมา

「แทงไม่ยั้งเลย! หนูจะให้พี่เห็นว่าหนูทนไหว!」

ผมยิ้มและจับสะโพกกับไหล่เธอก่อนกระแทกเอ็นใส่เธออย่างแรง

「ห-หนูไม่เป็นไร! หนูรับได้อีก!!」

ผมกระแทกใส่เธออย่างดุดันและขูดด้านในจิ๊เธอด้วยเอ็น

ผมจับไหล่เธอกดลงเพื่อให้เธอไม่เลื่อนไปข้างบนจากการแทงเน้นๆแต่ก็เพื่อที่ผมจะกระทุ้งมดลูกอิริจิน่าด้วยปลายเอ็นให้ได้ด้วย

เธอไม่ได้ร้องหรือไม่ได้ดูเจ็บ

มันทำให้ผมสุขใจที่เธอทนการแทงเต็มที่ของผมได้

「พี่ยังไม่เสร็จ!」

「หนูรับได้ทุกอย่างที่พี่ทำ!!」

ผมงอตัวไปข้างหลังและแทงกระแทกให้เร็วขึ้น

สะโพกเราฟาดเข้าหากันในเสียงเนื้อตีกันดังออกไปตอนทั้งรถม้าสั่น

「อุโออออออออ้!!」

「อ๊าาาาาาา!!」

ผมเลื่อนมือจากสะโพกอิริจิน่าสู่แขนเธอ

ในเวลาเดียวกันขาเธอรัดเอวผม

ขณะผมกระแทกอิริจะน่าและให้กดเธอกระแทกเข้ากับพื้นรถม้าทุกครั้ง ผมเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ

「มีเสียงแปลกๆอ่ะ……」

「จ-จัดหนูมาอีก!」

ผมสงสัยแต่มันสำคัญมากกว่าที่จะมีสมาธิกับผู้หญิงหน้าผม

「ได้ซี่ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ!?」

ผมเปลี่ยนการเคลื่อนนไหวสะโพกและถูตรงในจิ๊ที่ยังไม่ได้ได้ถู

ตอบด้วยร่างกายเธออิริจิน่าดันสะโพกใส่ผม

และจากกนั้นเมื่อสองเรากำลังจะไปถึงจุดสุดยอด มีเสียงดังพอทำสมาธิเสียและรถม้าเซไปด้านข้าง

「「โด่ะว้า!」」

อิริจิน่าและผมอยู่เชื่อมต่อกันขนะเรากลิ้งสู้พื้นเอียง

ผมได้ยินทหารด้านนอกเอะอะ

「เฮ้ยรถม้าพังว่ะ!」

「แหม โยกซะขนาดนั้น……」

มันดูเหมือนอิริจิน่าและผมแรงไปและล้อรถม้าพัง

แต่ผมหยุดไม่ได้หลังมาไกลขนาดนีแล้ว

「เอามือไว้ที่กำแพง」

「ได้!」

มือเธอวางบนรถม้าล้มและผมแทงจากข้างหลัง

แน่นอนความเงี่ยนของผมใกล้จุดสุดยอดและผมยั้งมือไม่ได้สักนิด

「ขมิบให้แน่นสุดท่าที่ทำได้ พี่จะถูหนูเยอะๆ」

「ปล่อยหนูได้เลย」

อิริจิน่าเกร็งกล้ามและขมิบด้านใน

เหมือนไม่ให้แพ้เธอผมแทงด้วยความแรงมากขึ้น

「อิริจิน่า…… อิริจิน่า!」

「ฮาร์ดเลตต์โดโนนน้!」

มือผมโอบร่างกลามเธอและขยำนมเธอระหว่างผมกัดคอเธอเบาๆ

อิริจิน่าเอื้อมมาข้างหลังเพื่อจับตูดผมตอนผมแทงใส่เธอ

จากนั้น ช่วงเวลาสุดท้ายมาถึง

「พี่จะปล่อยใส่ส่วนลึกสุด…… พร้อมมั้ย?」

「ได้เลย ส่งมาเลย」

สองเรากะจังหวะกระแทกใส่กันพร้อมกัน

เอ็นผมปะทะมดลูกเธอ

ในที่สุดเธอก็ร้องดังและงอหลังก่อนน้ำแตก

「โอออ้!」

ผมไปถึงขีดจำกัดการกระตุ้นและฉีดก้อนน้ำเชื้อเกือบแข็งใส่เธอ

สองเรานอนลงในอ้อมแขนกันและกันและมีความสุขกับความเสียวตกค้าง…… หรือนั่นควรเป็นอะไรที่เกิดขึ้น

「ระวัง!」

「โอ่ะว้า!」

เสาค้ำไม่สามารถทนการกระแทกและหัก ในที่สุดก็ทำให้ทั้งรถม้าพัง

เสาค้ำหนักหัก ไม้ค้ำผ้าคุ้มด้านบนหัก มากกว่านั้นพื้นไม้แตกเป็นชิ้น มีผลเป็นรถม้าที่ถูกทำลาย

อิริจิน่าและผมถูกโยนลงพื้นขณะรถม้ากระจายเป็นชิ้น

「จ-เจ้าศักดินา…… เป็นอะไรเปล่า?」

ทหารรอบๆมองเราอย่างตกใจขณะพวกเขาตรวจดูว่าผมบาดเจ็บหรือไม่

「……ไม่มีปัญหา ฉันแค่แรงไปหน่อย」

「แรงไปหน่อย? …….จากข้างนอกรถม้าสั่นเหมือนมีสัตว์ป่าอยู่ข้างใน」

ไมล่าค่อนข้างพองแกมและสีหน้าโกรธบนหน้า

ณ เวลานั้น มีเสียงกระแทกเป็นจังหวะและเอ็นผมหลุดออกจากอิริจิน่า

ผมจะปิดเธอด้วยผ้าห่ม

「มา ใครต่อ?」

เราจะใช้รถม้าทนกว่านี้ครั้งหน้า

ทันใดนั้นผมได้รู้ว่าร่างกายผมที่ร้อนจากเซ็กส์เข้มข้น มันกำลังเย็นลงอย่างเร็ว

「มันหนาววันนี้ มันฤดูหนาวแล้วเหรอ?」

「ฤดูกาลเปลี่ยนและมันดูเหมือนเราได้ลมพัดมาจากลมเหนือ」

ลีโอโพลต์ยืนหน้าผมด้วยสีหน้าไม่คิดอะไรแม้ว่าผมเปลือย

ผมรู้สึกว่าผมจะแพ้ถ้าผมอาย ผมเลยยืนกล้าๆเอ็นเปิดๆ

「มันไม่ปรกติที่ได้ลมเหนือ แต่มันแรง」

อืม มันไม่สำคัญวว่าลมจากเหนือหรือใต้ ผมไม่ชอบความหนาวเป็นพิเศษ

ผมแค่อยากกลับบ้านอาบน้ำ

「เราเสียอุปกรณ์ไปเยอะอยู่แล้ว การทำลายรถม้าไม่ใช่ความคิดที่ดี」

ลีโอโพลต์พล่ามอะไรที่เขาอยากพูดแล้วจากไป

ลมเหนือมันแรงขึ้นเยอะ

ไปที่รถม้าอื่นเถอะ

ลมหนาวควรรออยู่จนกว่าเราไปถึงราเฟน…… ผมเดาว่าผมโชคร้ายอย่างน่าตกใจ

 

 

สหพันธรัฐปะทะจักรวรรดิ – เทียบกำลังทหาร (จำนวนคนจะเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับการเกณฑ์)

สหพันธรัฐโอลก้า

ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 400 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง: 2 550 000 สูญเสีย: 1 100 000 พลเมืองตกเป็นเหยื่อ: 900 000

จักรวรรดิการ์แลนด์

ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 2 250 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง 3 100 000 สูญเสีย 850 000 (ไม่รวมทหารทาส)

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย เจ้าศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส

พลเมือง: 163,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4500

ครอบครัว: นนน่า (นนน่าผู้งดงาม), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), มิตี้ (ภรรยาน้อย), มาเรีย (ภรรยาน้อย), แคทเธอรีน (ภรรยาน้อยอัดอั้นทางเพศ ++++), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (คนรัก), เคซี่ (ผี), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), โยกุริ (นักแต่งบทละคร), ปีปี้ (คนรัก), อลิส (สาวน้อยเวทมนตร์)

มาร์เซลีน (คนรัก), ลูกสาว – สเตฟานี่ (คนรัก), บริดเจ็ต (อัดอั้นทางเพศ ++++), เฟลิซี่ (คนรัก)

เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง), เมลิสซ่า (คนรัก ไปเมืองหลวง), อัลม่า (ไปเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทรีน่า, อมาต้า, อนาสตาเซีย (ลูกสาว); แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด, ไรเนอร์, บาร์โตโลม (ลูกชาย); โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ไม่ใช่มนุษย์: แลมมี่ (คนรักที่เป็นงู), มิรูมิ (นางเงือก), ??? (ต้นไม้ประหลาด)

ลูกน้อง: ซีเลีย (หดหู่), กิโด้ (หน่วยติดตามคุ้มกัน), ครอล (พระขอทาน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ ), รูบี้, ไมล่า (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย), โพลเต้ (ผู้จัดการฝึกหัด), เกรเทล (ผู้ฝึกทำกิจการภายใน), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่ระดับสูง), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ทริสตัน (เจ้าหน้าที่ระดับสูง B), แคลร์ & ลอรี่ (แม้ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวอร์ซ (เหนื่อย), ลิเลียน (ดาราหญิง)

กองทัพ: 14,200 คน

ทหารราบ:7150 คน, ทหารม้า 800 คน, พลธนู: 950 คน, ทหารม้าธนู: 3900 คน (กองทัพลอร์ดบริวาร: 1400)

ปืนใหญ่:10 กระบอก, ปืนใหญ่มาก: 10 กระบอก

กองทัพแวนโดเลีย?: 9000

ทรัพย์สิน: 470 ทอง

คู่นอน: 233, ลูกเกิดแล้ว: 48 + ปลา 555 ตัว

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

Score 10
Status: Completed
ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset